Abstract:
เอ็น-(2-โพรพิลเพนทาโนอิล) ยูเรีย (วีพียู) เป็นอนุพันธ์ของกรดวาลโปรอิก (วีพีเอ) ที่มีฤทธิ์ต้านชักในแบบจำลองการชักในสัตว์ทดลองทั้งหนูแรทและหนูเมาส์ อย่างไรก็ตามกลไกการต้านชักของวีพียูยังไม่ทราบแน่ชัด การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์ที่จะทดสอบผลของวีพียูและวีพียเอต่อตัวรับชนิดยับยั้งกาบาเอและไกลซีนในเซลล์ประสาทฮิปโปแคมปัสที่แยกออกมาของหนูขาว (หนูแรท) โดยใช้เทคนิคแพทช์แคลมป์แบบทั้งเซลล์ แม้ว่าสารวีพีเอ (ความเข้มข้นจนถึง 3 มิลลิโมลาร์) และวีพียู (ความเข้มข้นจนถึง 300 ไมโครโมลาร์) ไม่มีผลกระตุ้นโดยตรงให้เกิดกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเยื่อหุ้มเซลล์และไม่มีผลใดๆ ต่อกระแสที่เหนี่ยวนำด้วยไกลซีน สารทั้งสองสามารถเสริมฤทธิ์กระแสที่เหนี่ยวนำด้วยกาบาแบบขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสาร อย่างไรก็ตามสารวีพีเอจะเสริมฤทธิ์ได้เฉพาะที่ความเข้มข้นสูงมากเท่านั้น (300-3000 ไมโครโมลาร์) สำหรับการเสริมฤทธิ์ของสารวีพียูก็ต้องใช้ความเข้มข้น (10-300 ไมโครโมลาร์) ที่สูงกว่าสารไดอะซีแปม เพนโตบาร์บิทาลโซเดียมและโพรพอฟอล ซึ่งการเสริมฤทธิ์ของวีพียูนี้ไม่สามารถยับยั้งด้วยสารฟลูมาเซนิล ซึ่งเป็นสารต้านที่บริเวณเบนโซไดอะซีปีนบนตัวรับกาบาเอแสดงให้เห็นว่า VPU มิได้ออกฤทธิ์ผ่านบริเวณเบนโซไดอะซีปีนบนตัวรับนี้ เมื่อศึกษาผลของวีพียูที่มีต่อการเสริมฤทธิ์ของเพนโตบาร์บิทาลโซเดียมต่อตัวรับกาบาเอก็พบว่า วีพียูจะเพิ่มการเสริมฤทธิ์ของเพนโตบาร์บิทาลโซเดียมต่อตัวรับกาบาเอ แต่เมื่อศึกษาผลของวีพียูต่อฤทธิ์กระตุ้นโดยตรงต่อตัวรับกาบาเอของเพนโตบาร์บิทาลโซเดียมกลับพบว่า วีพียูสามารถยับยั้งฤทธิ์ของเพนโตบาร์บิทาลโซเดียมได้ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า วีพียูมีปฏิกิริยาต่อกันโดยตรงหรือโดยอ้อมกับเพนโตบาร์บิทาลโซเดียม ที่บริเวณบาร์บิทูเรทบนตัวรับกาบาเอ อย่างไรก็ตามยังคงต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมถึงกลไกของการเกิดปฏิกิริยาต่อกันนี้ โดยสรุปแล้วผลการเสริมฤทธิ์ของวีพียูต่อตัวรับกาบาเออาจจะมีส่วนในการออกฤทธิ์ต้านชักของสารตัวนี้