Abstract:
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อทดสอบหาความสัมพันธ์ของผลต่างอัตราดอกเบี้ยถึงความสามารถในการพยากรณ์อัตราความเจริญเติบโตของประเทศ ในช่วงปี 2537 ถึงปี 2543 ไตรมาสที่สอง โดยการศึกษาจะแบ่งกลุ่มของผลต่างอัตราดอกเบี้ยเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่อัตราดอกเบี้ยมีความเสี่ยงต่างกัน กลุ่มของอัตราดอกเบี้ยที่มีอายุการไถ่ถอนต่างกัน และผลต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก ในการทดสอบใช้วิธีการประมาณค่า โดยวิธีกำลังสองน้อยที่สุดโดยทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างผลต่างอัตราดอกเบี้ยกับร้อยละของการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งทดสอบทางสถิติโดยเป็นการทดสอบรวมทั้งตลอดช่วงระยะเวลา 2537 ถึงปี 2543 ไตรมาสที่สอง และแบ่งช่วงเวลาแยกกรณีก่อนและหลังวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ โดยใช้ปี 2540 ไตรมาสที่สองเป็นช่วงแบ่ง จากการทดสอบทางสถิติพบว่าผลต่างอัตราดอกเบี้ยของบริษัทเงินทุนและธนาคารพาณิชย์ ผลต่างอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุการไถ่ถอนต่างกันมีความสามารถในการอธิบายร้อยละของการเปลี่ยนแปลงของผลผลิตมวลรวมของประเทศตลอดช่วงเวลา และผลต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากมีความสามารถในการอธิบายร้อยละของการเปลี่ยนแปลงของการลงทุนภาคเอกชนอย่างมากทั้งก่อนและหลังวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ ดังนั้นนโยบายการเงินที่มีประสิทธิภาพควรที่จะมีความสามารถในการกำหนดควบคุมให้ผลต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากอยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากผลต่างนี้เป็นสิ่งสำคัญในการสะท้อนถึงต้นทุนและความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจตลอดจนประสิทธิภาพของการจัดสรรทรัพยากรในประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบถึงปริมาณการลงทุนในภาคเอกชนและอัตราความเจริญเติบโตของประเทศ