Abstract:
กฎหมายสำคัญที่เป็นหลักในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน และการอำนวยความยุติธรรมทางอาญาของไทย คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยจะกำหนดหลักเกณฑ์อย่างกว้าง เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนไว้ ไม่ให้ถูกกระทบกระเทือนเกินสมควร ส่วนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาจะกำหนดอำนาจหน้าที่ ของเจ้าพนักงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีอาญา กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ที่กำหนดบทบาทหน้าที่ขององค์กรต่างๆ รวมทั้งแนวทางการกำหนดกฎหมายในการปกครองประเทศ เพื่อก่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้าและการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ให้ประชาชนชาวไทย แต่กฎหมายรัฐธรรมนูญก็มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด จึงมีการเปลี่ยนแปลงแนวความคิดในหลักการ เรื่องการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนเกี่ยวกับการค้น การจับ การควบคุมตัว การปล่อยชั่วคราว และการคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหาในการดำเนินการของตำรวจ เหตุที่มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเนื่องจากมีปัญหาในทางปฏิบัติ ซึ่งมีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน จึงต้องมีกฎหมายวางแนวทางเยียวยาแก้ไขกฎหมายนั้นคือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ผู้เขียนจึงมุ่งศึกษาถึงวิวัฒนาการ แนวความคิดและทฤษฎี ความหมาย ขอบเขตและเจตนารมณ์ของการคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหา ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ซึ่งได้เปลี่ยนแปลงแนวทางในการบริหารงานยุติธรรม จากรูปแบบควบคุมอาชญากรรม (Crime Control) เป็นรูปแบบนิติธรรม (Due Process) ทำให้หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิ ของผู้ต้องหาเปลี่ยนแปลงไปก่อให้เกิดปัญหาในการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งในเรื่องการจับ การค้น การควบคุมตัว การปล่อยชั่วคราว และการดำเนินการสอบสวนรวมทั้งวิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรค ตลอดจนแนวทางปรับปรุงแก้ไขบทบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และพัฒนาองค์กรกระบวนการยุติธรรมทางอาญาให้มีประสิทธิภาพ มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยเสนอแนวทางในการร่างประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 รวมทั้งแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานของรัฐ เพื่อให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการคุ้มครองสิทธิ ของผู้ต้องหาตามเจตนารมณ์ที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้