Abstract:
จากการที่ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกของ WTO รวมทั้งลงนามให้สัตยาบันในความตกลงทั่วไปว่าด้วยการค้าบริการ (GATS) ทำให้ประเทศไทยมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติของความตกลง รวมทั้งจะต้องทำการเปิดเสรีการค้าบริการแบบก้าวหน้าตามลำดับ ภายใต้เงื่อนไขดังที่ระบุไว้ในข้อผูกพันเฉพาะ การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาหาแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 281 (ปว.281) ซึ่งเป็นกฎหมายที่ทำการควบคุมการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับความตกลงทั่วไปว่าด้วยการค้าบริการ (GATS) ดังกล่าว การศึกษาวิจัยจะทำการพิจารณาถึงหลักการที่กำหนดไว้ใน ปว.281 ว่ามีส่วนใดที่ไม่สอดคล้องกับพันธกรณีในความตกลง GATS และไม่สอดคล้องอย่างไร เพื่อที่จะได้ทำการปรับปรุงแก้ไขหลักการดังกล่าวนั้ให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของความตกลงต่อไป และเนื่องจากในขณะที่ทำวิจัยนี้รัฐบาลได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกมาเพื่อยกเลิก ปว.281 โดยมีการปรับปรุงแก้ไขหลักการต่างๆ ของ ปว.281 ดังนั้นในการศึกษาวิจัยจึงจะทำการศึกษาถึงหลักการที่มีอยู่ในพระราชบัญญัตินี้ว่ามีหลักการอย่างไรด้วย เพื่อให้ทราบถึงแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ทั้งนี้ศึกษาด้วยว่าหลักการตามพระราชบัญญัตินี้หลังจากที่ได้ทำการปรับปรุงแก้ไขหลักการเดิมใน ปว.281 แล้ว จะมีความสอดคล้องกับบทบัญญัติตามความตกลงหรือไม่ ผลการวิจัยพบว่า หลักเกณฑ์การควบคุมการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวทั้งที่มีอยู่ใน ปว.281 และพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ที่มีหลักการใหม่โดยทำการแก้ไขหลักการเดิมของ ปว.281 แล้วนั้น ก็ยังคงมีลักษณะเป็นการจำกัดสิทธิของผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นคนต่างด้าวในการเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย รวมถึงการระบุธุรกิจในบัญชีท้ายกฎหมายให้เป็นธุรกิจที่ห้ามไม่ให้คนต่างด้าวทำ โดยรวมถึงธุรกิจบริการด้วยนั้น ได้ก่อให้เกิดปัญหาและเป็นอุปสรรคต่อการเข้าสู่ตลาดของคนต่างด้าวที่จะเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย ดังนั้นเพื่อที่จะดำเนินการตามพันธกรณีภายใต้ความตกลง ประเทศไทยจึงต้องทำการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้มีการเปิดเสรียิ่งขึ้นตามลำดับ และสอดคล้องกับบทบัญญัติของความตกลงและข้อผูกพันเฉพาะ ความตกลง GATS ยังส่งผลกระทบต่อกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบริการใน ปว.281 ด้วย ดังนั้นจึงต้องทำการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายดังกล่าวให้เป็นไปตามพันธกรณีของความแตกต่างเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องทำการทบทวนและพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ โดยต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ