Abstract:
ตามที่มาตรา 1167 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และมาตรา 97 ของพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัดให้นำกฎหมายตัวแทนมาใช้บังคับในกรณีความสัมพันธ์ระหว่างกรรมการกับบริษัท และบุคคลภายนอก ความจริงแล้วพบว่าบริษัทนั้นมีผู้แทนนิติบุคคลคือกรรมการ ส่วนสัญญาตัวแทนมีตัวการและตัวแทน ซึ่งกฎหมายทั้งสองลักษณะมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด กล่าวคือสัญญาหุ้นส่วนนั้นก็มาจากสัญญาตัวแทนนั่นเอง กฎหมายบริษัทมีแนวคิดเดียวกับกฎหมายหุ้นส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนบางครั้งอาจได้รับมอบหมายจากบริษัทให้เป็นตัวแทนก็ได้ดังนั้นบทบัญญัติมาตรา 1167 และมาตรา 97 จึงเป็นบทบัญญัติที่สอดคล้องกับความต้องการในทางปฏิบัติ อนึ่งมีข้อสังเกตว่ามาตรา 1167 และมาตรา 97 ไม่ใช่ตัวแทนที่เกิดจากสัญญาตัวแทนตามมาตรา 797 การให้นำกฎหมายตัวแทนมาใช้บังคับนั้นเป็นกรณีที่เกิดจากกฎหมายบัญญัติ (by the operation of law) ทั้งนี้เพราะตัวแทนที่จะนำมาใช้บังคับตามมาตรา 1167 หรือมาตรา 97 คือกรณีเป็นตัวแทนที่ไม่ได้เกิดจากการแต่งตั้งหรือเกิดจากสัญญา ถ้าเป็นกรณีสัญญาตัวแทนแล้ว ต้องนำกฎหมายตัวแทนไปใช้บังคับโดยตรง ไม่เกี่ยวกับมาตรา 1167 และมาตรา 97 ส่วนขอบเขตการนำกฎหมายตัวแทนมาใช้บังคับนั้นมีประเด็นที่ต้องนำมาศึกษาวิเคราะห์ คือมาตรา 821 มาตรา 822 มาตรา 823 และมาตรา 797 วรรคสอง (ตัวแทนโดยปริยาย) โดยผู้วิจัยได้ศึกษาวิเคราะห์แนวคำพิพากษาฎีกาประกอบ ซึ่งพบว่ามีการนำกฎหมายตัวแทนมาใช้ในกฎหมายบริษัทแต่ในบางกรณียังวินิจฉัยไม่ตรงหลักตัวการตตัวแทนในมาตรา 1167 และมาตรา 97 เสียทีเดียว เช่นมีการนำมาตรา 822 มาปรับใช้ซึ่งมาตรา 822 นี้มีสัญญาตัวแทนเกิดขึ้นแล้วจึงต้องนำกฎหมายตัวแทนมาใช้บังคับโดยตรง นอกจากนี้ในบางกรณีมีการนำมาตรา 821 และมาตรา 823 มาใช้ในคดีเดียวกัน ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หากมีการแสดงออกของบริษัทต่อบุคคลภายนอกเกิดขึ้นต่างช่วงเวลา อย่างไรก็ตามเมื่อแนวคำพิพากษาฎีกาในบางกรณียังวินิจฉัยไม่ถูกต้องสมบูรณ์ ผู้วิจัยขอเสนอแนะว่าในการนำกฎหมายตัวแทนมาปรับใช้ในกฎหมายบริษัทนั้นควรทำเข้าใจหลักของมาตรา 1167 และมาตรา 97 อย่างถูกต้องเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และสร้างแนวทางที่ชัดเจนในเรื่องขอบเขตของการนำกฎหมายตัวแทนมาปรับใช้ด้วย