Abstract:
การวิจัยทางคลินิกนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบการยึดติดของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟัน เมื่อทำความสะอาดผิวฟันด้วยวิธีการที่ต่างกันในฟันกรามถาวรซี่ที่หนึ่งของเด็กอายุ 7-8 ปี ทำการศึกษาภายในบุคคลเดียวกันโดย คัดเลือกตัวอย่างฟันกรามถาวรซี่ที่หนึ่งที่มีลักษณะตามข้อบ่งชี้ในการเคลือบหลุมร่องฟัน และอยู่ในขากรรไกรเดียวกันจำนวน 188 คู่ฟัน จากเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 2 โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครจำนวน 6 โรงเรียน รวมทั้งสิ้น 123 คน จัดตัวอย่างเข้าศึกษาด้วยวิธีการสุ่มแบบบล็อก (Block randomization) โดยฟันข้างหนึ่งได้รับการทำความสะอาดผิวฟันโดยการแปรงฟันด้วยตนเอง ส่วนฟันอีกข้างทำความสะอาดเสริมด้วยการใช้เครื่องมือขัดฟันภายหลังการแปรงฟัน ติดตามผลการยึดติดของวัสดุภายหลังการเคลือบหลุมร่องฟันที่ระยะเวลา 6 และ 12 เดือน เมื่อสิ้นสุดการศึกษาคงเหลือจำนวนตัวอย่าง 158 คู่ฟัน วิเคราะห์ความแตกต่างการยึดติดของวัสดุระหว่างวิธีการทำความสะอาดทั้งสองวิธีด้วยสถิตินอนพาราเมตริกชนิดวิลคอกซัน ไซนน์ แรงค์ เทสต์ (Wilcoxon signed rank test) ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ผลการศึกษาพบว่าที่ระยะเวลา 6 เดือน ฟันที่ได้รับการทำความสะอาดผิวฟันโดยการแปรงฟันด้วยตนเอง มีอัตราการยึดติดของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันสมบูรณ์ทั้งซี่ฟันร้อยละ 90.9 และมีอัตราการยึดติดตามตำแหน่งหลุมร่องฟัน ร้อยละ 96.3 ต่ำกว่าฟันที่ได้รับการทำความสะอาดเสริมด้วยเครื่องมือขัดฟันที่มีอัตราการยึดติดร้อยละ 95.1 และ 98.1 ตามลำดับ แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ขณะที่ระยะเวลา 12 เดือนพบว่า ฟันที่ได้รับการทำความสะอาดผิวฟันโดยการแปรงฟันด้วยตนเอง มีอัตราการยึดติดสมบูรณ์ทั้งซี่ฟันร้อยละ 79.7 และมีอัตราการยึดติดตามตำแหน่งหลุมร่องฟันร้อยละ 92.1 ต่ำกว่าฟันที่ได้รับการทำความสะอาดเสริมด้วยเครื่องมือขัดฟันที่มีอัตราการยึดติดร้อยละ 88.6 และ 95.4 ตามลำดับอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.020 และ p=0.035)