Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/10976
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorอรพรรณ ลือบุญธวัชชัย-
dc.contributor.authorบุญสม กองนิล-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะพยาบาลศาสตร์-
dc.coverage.spatialไทย-
dc.coverage.spatialกรุงเทพฯ-
dc.date.accessioned2009-09-03T03:11:15Z-
dc.date.available2009-09-03T03:11:15Z-
dc.date.issued2545-
dc.identifier.isbn9741711301-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/10976-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (พย.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2545en
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลได้แก่ระดับการศึกษารายได้ สถานภาพสมรส ประวัติการเจ็บป่วยด้วยโรคซึมเศร้าของบุคคลในครอบครัว การรับรู้ภาวะสุขภาพ ความคิดอัตโนมัติด้านลบ และการปรับตัวทางสังคม กับความซึมเศร้า กลุ่มตัวอย่างคือหญิงวัยหมดระดูโรงพยาบาลของรัฐกรุงเทพมหานครได้จากการสุ่ม แบบอุบัติการณ์ จำนวน 130 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามการรับรู้ภาวะสุขภาพ แบบประเมินความซึมเศร้า แบบประเมินความคิดอัตโนมัติในด้านลบ และแบบประเมินการปรับตัวทางสังคม ซึ่งได้ผ่านการทดสอบความตรงและความเที่ยง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์สหสัมพันธ์เพียร์สัน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. ความไม่เพียงพอของรายได้ มีความสัมพันธ์ทางบวกระดับต่ำมาก ส่วนการไม่เจ็บป่วยด้วยโรคซึมเศร้าของบุคคลในครอบครัว มีความสัมพันธ์ทางบวกระดับต่ำและความคิดอัตโนมัติด้านลบ มีความสัมพันธ์ทางบวกระดับปานกลางกับความซึมเศร้า (r = .222, .288, .655 ตามลำดับ) กับความซึมเศร้าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. ความเพียงพอของรายได้มีความสัมพันธ์ระดับต่ำมาก การเจ็บป่วยด้วยโรคซึมเศร้าของบุคคลในครอบครัวและการรับรู้ภาวะสุขภาพมีความ สัมพันธ์ทางลบระดับต่ำ และการปรับตัวทางสังคมมีความสัมพันธ์ทางลบระดับปานกลาง กับความซึมเศร้า (r = .212, .288, .305 และ .670 ตามลำดับ) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05en
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this research were to study relationships between personal factors, health perception, negative autonomous thinking, social adjustment, and depression. The subjects consisted of 130 menopausal women in governmental hospitals Bangkok metropolis by accidental sampling. The instruments were personal data form, health perception questionnaire, depression test, negative autonomous thinking test, social adjustment test which had been tested for validity and reliability. Statistical methods used to analyze data included mean, standard deviation and Pearson's product correlation. Major findings were as follows: 1. The inadequated income, non depressive person in family, negative autonomous thinking were positive significantly related to depression in menopausal women (r = .222, .288, .655,) at .05 level. 2. The adequated income, Depressive person in family, health perception, and social adjustment were negative significantly related to depression in menopausal women (r = -.212, -.288, -.305, -.670) at .05 level.en
dc.format.extent3410792 bytes-
dc.format.mimetypeapplication/pdf-
dc.language.isothes
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.subjectความซึมเศร้าในสตรี -- ไทยen
dc.subjectวัยหมดระดู -- ไทยen
dc.titleความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล การรับรู้ภาวะสุขภาพ ความคิดอัตโนมัติในด้านลบ การปรับตัวทางสังคม กับความซึมเศร้าในหญิงวัยหมดระดูโรงพยาบาลของรัฐ กรุงเทพมหานครen
dc.title.alternativeRelationships between personal factors, health perception, negative autonomous thinking, social adjustment, and depression in menopausal women, govermental hospitals, Bangkok metropolisen
dc.typeThesises
dc.degree.nameพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิตes
dc.degree.levelปริญญาโทes
dc.degree.disciplineการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวชes
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.email.advisorOraphun.L@Chula.ac.th-
Appears in Collections:Nurse - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Boonsom.pdf3.33 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.