Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/1805
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorสุนีย์ มัลลิกะมาลย์-
dc.contributor.authorเสถียร รุจิระวณิช-
dc.contributor.authorวินัย สมบูรณ์-
dc.contributor.authorธนพรรณ สุนทระ-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ภาควิชากฎหมายแพ่งและพาณิชย์-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สถาบันวิจัยสภาะแวดล้อม-
dc.contributor.otherไม่มีข้อมูล-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม-
dc.date.accessioned2006-08-15T12:05:54Z-
dc.date.available2006-08-15T12:05:54Z-
dc.date.issued2531-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/1805-
dc.description.abstractปัญหามลพิษจากการดำเนินงานของโรงงานอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับสิ่งแวดล้อมนั้นความสัมพันธ์โดยตรงต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศให้เป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ภายใต้แผนพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศให้เป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ภายใต้แผนพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 6 โดยที่รัฐมืได้กำหนดนโยบายหรือแนวทางในการคุ้มครองสิทธิในสิ่งแวดล้อม และการเยียวยาประชาชนที่ได้รับเอามลพิษาจากโรงงานอุตสาหกรรมไว้เลย ในขณะเดียวกันปรากฏข้อเท็จจริงเกิดขึ้นมาแล้วว่ามีประชาชนได้รับมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมสะสมอยู่ในร่างกายจนเกิดโรคขึ้นมาแล้ว แต่ประชาชนเหล่านั้นมิได้เรียกร้องสิทธิที่จะได้รับค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนจากผู้ที่เป็นต้นเหตุทำให้ได้รับความเดือดร้อนรำคาญและเสียหายนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้องโดยตรงจากผู้ก่อให้เกิดปัญหา เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรรับให้เรียกร้องได้ หรือจากการฟ้องร้องเป็นคดีต่อศาล ซึ่งในกรณีนี้ผู้เสียหายจะพบกับปัญหาและอุปสรรคจากกระบวนวิธีพิจารณาความที่จะทำให้ผู้เสียหายมีโอกาสชนะคดีได้น้อยมาก เนื่องจากตามกฎหมายแล้วภาระหน้าที่ในการนำสืบถึงความสัมพันธ์ระหว่างโรคที่ได้รับจากมลพิษโรงงานอุตสาหกรรม กับสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนั้นตกเป็นของผู้กล่าวอ้างซึ่งเป็นผู้เสียหายที่เป็นโจทก์ฟ้อง ด้วยเหตุนี้ความเหมาะสมและความเป็นไปได้ที่จะจัดตั้งกองทุนทดแทนความเสียหายต่อสุขภาพจากมลพิษจึงน่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งคาดหมายว่าคงจะต้องผ่านพ้นช่วงของการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 6 เสียก่อน เนื่องจากเป็นช่วงระยะเวลาที่รัฐมุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมซึ่งยังไม่เหมาะสมนัก เพราะอาจจะเป็นการบั่นทอนความประสงค์ของการลงทุนได้ อย่างไรก็ตามแนวทางของรูปแบบกองทุนทดแทนฯนี้ ควรจะประกอบด้วย 1. วัตถุประสงค์ของกองทุนทดแทนฯ เพื่อเป็นการเยียวยาผู้เสียหาเช่นเดียวกับของญี่ปุ่น และเป็นการอนุรักษ์สิงแวดล้อมจากการถูกทำลายของโรงงานอุตสาหกรรม 2. การรวบรวมเงินเข้ากองทุนทดแทนฯ แยกเป็น 2 วิธีคือ (1) กรณีที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่จัดตั้งแล้วและได้ดำเนินการแล้ว การเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนจะทำควบคู่ไปกับการพิจารณาต่ออายุในอนุญาตในแตาละปี (2) กรณีที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการ ให้เรียกเก็บเงินพร้อมกับการพิจารณาใบอนุญาตขอจัดตั้งโรงงานฯ 3. ขอบเจตของการจ่ายเงินทดแทน ครอบคลุมถึง (1) ค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนที่จ่ายให้กับประชาชนผู้เสียหาย (2) ค่าทำความสะอาดพท้นทีที่เกิดมลพิษจากการดำเนินการของโรงงานอุตสาหกรรม 4. หน่วยงานที่รับผืดชอบในการบริหารกองทุนทดแทนฯ มอบให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการ Noted: คณะนิติศาสตร์ร่วมกับสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มูลนิธิญี่ปุ่นen
dc.format.extent93472299 bytes-
dc.format.mimetypeapplication/pdf-
dc.language.isothen
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen
dc.subjectสวัสดิการลูกจ้างen
dc.subjectโรคเกิดจากอาชีพen
dc.subjectกองทุนทดแทนen
dc.subjectอาชีวอนามัยen
dc.titleการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุนทดแทน ความเสียหายต่อสุขภาพจากมลพิษ : รายงานผลงานวิจัยen
dc.typeTechnical Reporten
dc.email.authorSunee.M@Chula.ac.th-
dc.email.authorSatien.R@Chula.ac.th-
dc.email.authorThanaphan.S@chula.ac.th-
Appears in Collections:Law - Research Reports

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Sunee.pdf25.26 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.