Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/23095
Title: โครงสร้างผลึกและค่าช่องว่างแถบพลังงานของสารประกอบกึ่งตัวนำ Cu2In4Se7
Other Titles: Crystal structure and energy gap value of the Cu2In4Se7 semiconductor compound
Authors: เกรียงไกร วันทอง
Advisors: ขจรยศ อยู่ดี
สมพงศ์ ฉัตราภรณ์
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิทยาศาสตร์
Issue Date: 2544
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: การปลูกผลึกสารกึ่งตัวนำ Cu₂In₄Se₇ จากสภาวะหลอมเหลวโดยวิธีทำให้เย็นตัวโดยตรงตามวิธีของบริดจ์แมน-สโตคบาร์เกอร์ตามแนวนอน เมื่อวิเคราะห์องค์ประกอบตามแนวยาวของผลึกสารตัวอย่างโดยใช้วิธีอีดีเอส พบว่าการปลูกผลึกแบบนี้มีเกรเดียนท์ของสัดส่วนของธาตุองค์ประกอบ ตรงกันข้ามกับผลึกของสารประกอบ CuInSe₂ ซึ่งจะไม่มีเกรเดียนท์ของสัดส่วนของธาตุองค์ประกอบ จากการทดลองการดูดกลืนแสง พบว่าค่าพลังงานที่ชอบการดูดกลืนแสงของสารประกอบ Cu₂In₄Se₇ น้อยกว่าค่าช่องว่างแถบพลังงานของสารประกอบ CuInSe₂ และลักษณะการเปลี่ยนแปลงค่าพลังงานที่ขอบการดูดกลืนแสงตามอุณหภูมิไม่สอดคล้องกับลักษณะของช่องว่างแถบพลังงานแสดงให้เห็นว่าค่าพลังงานที่ขอบการดูดกลืนแสงนี้ไม่ใช่ช่องว่างแถบพลังงานของสารประกอบ Cu₂In₄Se₇ แต่เป็นเพียงค่าเฉลี่ยของสถานะบางอย่างหรือความปรวนแปรในช่องว่างแถบพลังงานของสารประกอบ Cu₂In₄Se₇ จากการศึกษาสมบัติทางไฟฟ้าของสารประกอบ Cu₂In₄Se₇ โดยใช้การทดลองปรากฏการณ์ฮอลล์ พบว่าไม่สามารถสรุปชนิดของสารกึ่งตัวนำที่ชัดเจนได้ จากผลการทดลองการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์ พบว่าชิ้นสารตัวอย่างที่มีสัดส่วนธาตุองค์ประกอบที่แตกต่างกันกลุ่มหนึ่งมีรูปแบบการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์เหมือนกัน แสดงให้เห็นว่าสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงสัดส่วนธาตุองค์ประกอบของสารประกอบ Cu₂In₄Se₇ ได้กว้างโดยที่โครงสร้างของสารประกอบ Cu₂In₄Se₇ ไม่เปลี่ยนแปลง และเมื่อทำการวิเคราะห์โครงสร้างที่เหมาะสมของสารประกอบ Cu₂In₄Se₇ โดยการปรับแต่งพารามิเตอร์แบบเรียทเวล์โดยใช้โครงสร้างแบบสองเฟส พบว่าผลที่ได้ไม่ได้น่าเชื่อถือมากกว่าโครงสร้างแบบเฟสเดียว ส่วนโครงสร้างแบบเฟสเดียวที่น่าเชื่อถือยังคงเป็นพีชาลโคไพไรท์
Other Abstract: The crystalline bulk of the Cu₂In₄Se₇ was grown from melting compound using the horizontal Bridgeman-Stokbargee directional freezing method. From the EDS analysis of composition along the crystal ingot, the composition gradient caused by this growth method is found in contrast this growth method has no effect on the composition of CuInSe₂. The absorption edge energies of Cu₂In₄Se₇, obtained from optical-absorption results, are less than that of CuInSe₂ and the characteristics of the absorption edge energy variation of Cu₂In₄Se₇ due to temperature variation do not correspond to the characteristic of the energy gap variation. Hence, these absorption edge energies are not the energy gap of Cu₂In₄Se₇, but only the average values of some states or fluctuation in the band gap. Hall experimental results do not clearly reveal the semiconductor type of Cu₂In₄Se₇. From x-ray diffraction experiment, a number of samples, whose compositions are different, have the same x-ray diffraction patterns. That means the compositions of Cu₂In₄Se₇ can be varied widely while its structure remains unchanged. From Rietveld refinement, the refinement result of a two-phase structure is not more reliable than the results of a single-phase structure. The reliable structure remains P-chalcopyrite.
Description: วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2544
Degree Name: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: ฟิสิกส์
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/23095
ISBN: 9741702701
Type: Thesis
Appears in Collections:Sci - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Kriangkrai_wa_front.pdf5.11 MBAdobe PDFView/Open
Kriangkrai_wa_ch1.pdf2.35 MBAdobe PDFView/Open
Kriangkrai_wa_ch2.pdf9.93 MBAdobe PDFView/Open
Kriangkrai_wa_ch3.pdf15.99 MBAdobe PDFView/Open
Kriangkrai_wa_ch4.pdf13.42 MBAdobe PDFView/Open
Kriangkrai_wa_ch5.pdf1.75 MBAdobe PDFView/Open
Kriangkrai_wa_back.pdf10.3 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.