บทบาทของหัวหน้าส่วนการศึกษาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาถึงบทบาทและหน้าที่ของหัวหน้าส่วนการศึกษาในการบริหารงานเกี่ยวกับการมีความสัมพันธ์กับชุมชน การบริหารงานบุคคล การบริหารงานวิชาการ และการบริหารงานธุรการ การเงิน และการให้บริการ โดยการเปรียบเทียบจากความเห็นของปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนการศึกษา และหัวหน้าหมวดการศึกษา 2. เพื่อศึกษาถึงอุปสรรคและปัญหาต่าง ๆ ที่มีต่อการปฏิบัติงานของหัวหน้าส่วนการศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วิธีดำเนินการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยเอกสาร หนังสือ รายงานการวิจัยที่เกี่ยวข้อง และแบบสอบถาม 1 ชุด โดยสอบถามประชากร 3 กลุ่ม คือ กลุ่มปลัดจังหวัดหัวหน้าส่วนการศึกษา และกลุ่มหัวหน้าหมวดการศึกษา แบบสอบถามชุดนี้จะครอบคลุมงานบริหารการศึกษาทั้ง 4 ด้าน คือ การมีความสัมพันธ์กับชุมชน การบริหารงานบุคคล การบริหารงานวิชาการ และการบริหารธุรการ การเงินและการให้บริการ นอกจากนี้ยังมีผลสรุปการแสดงความคิดเห็นของกลุ่มประชากร ที่มีต่อการบริหารงานทั้ง 4 ด้าน ดังกล่าว ของหัวหน้าส่วนการศึกษา โดยผู้วิจัยได้ส่งแบบสอบถามไปเป็นจำนวน 232 ฉบับ และได้รับคืนจำนวน 196 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 84.48 การวิเคราะห์ข้อมูลนี้ใช้วิธีเปรียบเทียบค่าร้อยละและค่าเฉลี่ย (X̅) ผลการวิจัย จากการวิจัยการปฏิบัติงานบริหารการศึกษา ซึ่งมีงานทั้งหมด 4 ประเภท ตามความเห็นของกลุ่มปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนการศึกษา และหัวหน้าหมวดการศึกษานั้นปรากฏว่า เกี่ยวกับเรื่องการบริหารงานบุคคล ประชากรทั้ง 3 กลุ่ม มีความเห็นสอดคล้องกันว่า หัวหน้าส่วนการศึกษาได้ปฏิบัติงานการบริหารบุคคลมากเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งแสดงว่าหัวหน้าส่วนการศึกษามีบทบาทในการสรรหาบุคลากร การบำรุงรักษา การพัฒนาบุคลากร และการให้พ้นจากงานเป็นอย่างมาก รองลงมาได้แก่เรื่องการมีความสัมพันธ์กับชุมชน ตามความเห็นของกลุ่มปลัดจังหวัด และกลุ่มหัวหน้าหมวดการศึกษา เห็นว่า หัวหน้าส่วนการศึกษาได้ปฏิบัติเรื่องนี้มากเป็นอันดับสอง แต่กลุ่มหัวหน้าส่วนการศึกษากลับเห็นว่า ตนได้ปฏิบัติเรื่องนี้เป็นอันดับสาม อย่างไรก็ตามจากค่าเฉลี่ยของความคิดเห็นของประชากรทั้ง 3 กลุ่มโดยส่วนรวมแล้ว เห็นว่า หัวหน้าส่วนการศึกษามีบทบาทในด้านการส่งเสริมความสัมพันธ์กับชุมชนอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างมาก สำหรับการบริหารธุรการ การเงิน และการให้บริการ ตามความเห็นของกลุ่มปลัดจังหวัด และกลุ่มหัวหน้าหมวดการศึกษา เห็นว่า หัวหน้าส่วนการศึกษาได้ปฏิบัติในเรื่องนี้มากเป็นอันดับที่สาม แต่กลุ่มหัวหน้าส่วนการศึกษาเองเห็นว่า ได้ปฏิบัติงานธุรการ การเงิน และการให้บริการมากเป็นอันดับสอง จากผลสรุปค่าเฉลี่ยของความคิดเห็นโดยส่วนรวมของประชากรทั้ง 3 กลุ่มแล้ว เห็นว่า หัวหน้าส่วนการศึกษามีบทบาท ในการบริหารงานธุรการ การเงิน และการให้บริการในเกณฑ์ค่อนข้างมาก ส่วนเรื่องการบริหารวิชาการนั้น ประชากรทั้ง 3 กลุ่มมีความเห็นตรงกันว่า หัวหน้าส่วนการศึกษาได้ปฏิบัติงานวิชาการเป็นอันดับสุดท้าย ทั้งนี้คงจะเป็นเพราะว่าบรรดาหัวหน้าส่วนการศึกษาทั้งหลาย เห็นว่างานวิชาการเป็นเรื่องรับผิดชอบของฝ่ายศึกษาธิการไป อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหัวหน้าส่วนการศึกษาจะปฏิบัติงานด้านวิชาการน้อยไปกว่าบริหารงานด้านอื่น แต่จากค่าเฉลี่ยโดยส่วนรวมของประชากรทั้ง 3 กลุ่ม ก็พบว่าหัวหน้าส่วนการศึกษามีบทบาทในการบริหารงานวิชาการในเกณฑ์ที่ค่อนข้างมากเช่นเดียวกัน