การลงทุนในอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย

Abstract

วิทยานิพนธ์นี้เป็นการศึกษาถึงการลงทุนในอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ ในประเทศไทยในด้านต่าง ๆ เช่น การผลิต การใช้วัตถุดิบ แรงงาน การใช้เงินทุน และการวิเคราะห์ทางด้านการเงิน เช่น อัตราส่วนทางการเงิน ต้นทุนในการผลิตและแนวโน้มของอุตสาหกรรมนี้ในอนาคต เป็นต้น พร้อมกับการวิเคราะห์ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละด้าน นอกจากนี้ยังพิจารณาถึงปัจจัยในการลงทุน อัตราผลตอบแทนและหลักเกณฑ์สำคัญในการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ การศึกษาถึงรายละเอียดดังกล่าวเพื่อให้ทราบถึงโครงสร้างทั่ว ๆ ไปของอุตสาหกรรมที่เป็นอยู่ จากการศึกษาพบว่าอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ ได้มีการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการผลิตเทคโนโลยี และการใช้วัตถุดิบในประเทศมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลได้วางนโยบายและให้ความคุ้มครองแก่อุตสาหกรรมนี้ในอัตราที่สูงมาก โดยใช้การห้ามนำเข้า และอัตราภาษีอากร เป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันการแข่งขันของรถจักรยานยนต์จากต่างประเทศ จึงทำให้อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในประเทศได้ขยายตัวและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ได้วางไว้ การลงทุนของผู้ที่สนใจลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ ควรจะสร้างโรงงานที่มีการผลิตไม่ต่อกว่า 40,000 คันต่อปี โดยต้องใช้เงินลงทุนในโรงงาน เครื่องจักร อุปกรณ์และที่ดินไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท แต่จะต้องได้รับความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีและเงินทุนจากผู้ผลิตที่มีความชำนาญในอุตสาหกรรมนี้จากต่างประเทศด้วย โดยทั่วไปอัตราผลตอบแทนของอุตสาหกรรมนี้อยู่ในอัตราที่สูง นอกจากในระยะเริ่มแรกของการลงทุนจะมีการขาดทุนอยู่บ้าง เนื่องจากยังไม่เป็นที่นิยมของตลาดและเงินลงทุนสูง รถจักรยานยนต์ที่จะทำการผลิตในประเทศควรเป็นรถจักรยานยนต์ขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 125 ซี.ซี. นับว่าเหมาะสมที่สุด จากการศึกษาถึงผู้ลงทุนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้พบว่ามีเพียง 3 รายที่เป็นผู้ครองตลาดในประเทศได้ทั้งหมด จึงทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตและการจำหน่ายได้กำไรสูงทุกปี แม้ว่าต้นทุนในการผลิตจะสูงกว่าต่างประเทศเล็กน้อย แต่ก็สามารถชดเชยต้นทุนที่สูงขึ้นนั้นได้ โดยการเพิ่มราคาจำหน่ายรถจักรยานยนต์ให้สูงขึ้นตามกำลังการผลิตรวมของอุตสาหกรรมนี้ ในปัจจุบันนี้นับว่าเพียงพอกับความต้องการใช้รถจักรยานยนต์ภายในประเทศ และมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี จึงเป็นปัญหาของผู้ลงทุนรายใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ว่า จะสามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรายเก่าในด้านการตลาดและต้นทุนในการผลิตให้อยู่ในระดับเดียวกันได้หรือไม่ ปัญหาสำคัญดังกล่าวมีผลกระทบต่อผู้ลงทุนรายใหม่อย่างมาก ทั้งนี้เพราะในปัจจุบันแม้ว่ารัฐบาลอนุญาตให้ตั้งโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศได้ก็ตาม แต่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้งดพิจารณาให้การส่งเสริมแก่ผู้ลงทุนในอุตสาหกรรมนี้แล้ว ฉะนั้นในภาวการณ์ดังกล่าวผู้ลงทุนรายใหม่จึงไม่ควรที่จะลงทุน หากไม่สามารถหาผู้ร่วมลงทุนจากต่างประเทศดังกล่าวได้ ข้อควรพิจารณาในการศึกษาการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ ที่มีผลกระทบต่อราคาของรถจักรยานยนต์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น เพราะจากต้นทุนการผลิตที่สูง และผู้ลงทุนต้องการผลกำไร รัฐบาลควรมีมาตรการบางประการ เช่น การกำหนดราคาจำหน่ายในราคาที่เหมาะสม ยุติธรรมสำหรับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ซึ่งมีจำนวนมากในประเทศ และจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะรถจักรยานยนต์มีประโยชน์ ประหยัดน้ำมันและเหมาะสมกับประชาชนทั่ว ๆ ไป ส่วนใหญ่ในประเทศไทย อันจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศได้