Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/2567
Title: | การแก้ไขสะบ้าเคลื่อนในสุนัขโดยการทำท่อปรับแนวเอ็นส่วนต้น |
Other Titles: | Correction of patellar luxation in dogs by proximal tube realignment |
Authors: | ชาลิกา หวังดี, 2520- |
Advisors: | มาริษศักร์ กัลล์ประวิทธ์ |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะสัตวแพทยศาสตร์ |
Advisor's Email: | Marissak.K@Chula.ac.th |
Subjects: | สุนัข กระดูก -- ศัลยกรรม ข้อเข่า -- ศัลยกรรม |
Issue Date: | 2545 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | การแก้ไขสะบ้าเคลื่อนโดยการทำ proximal tube realignment ซึ่งเป็นการทำท่อปรับแนวเอ็นส่วนต้นของกลุ่มกล้ามเนื้อ quadriceps ที่ข้อเข่าสุนัขจำนวน 30 เข่าที่มีสะบ้าเคลื่อน ที่โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แบ่งข้อเข่าและการรักษาเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 เป็นข้อเข่าที่มีสะบ้าเคลื่อนไม่เกินระดับที่ 2 จำนวน 10 เข่า เป็นระดับที่ 1 จำนวน 4 เข่า และระดับที่ 2 จำนวน 6 เข่าได้รับการแก้ไขโดยวิธี trochlear wedge recession เพียงอย่างเดียว กลุ่มที่ 2 เป็นข้อเข่าที่มีสะบ้าเคลื่อนระดับที่ 2 จำนวน 5 เข่า ได้รับการแก้ไขโดยการทำ proximal tube realignment เพียงอย่างเดียว กลุ่มที่ 3 เป็นข้อเข่าที่มีสะบ้าเคลื่อนระดับที่ 2 จำนวน 10 เข่า และกลุ่มที่ 4 เป็นข้อเข่าที่มีสะบ้าเคลื่อนระดับที่ 3 จำนวน 5 เข่า ทั้ง 2 กลุ่มนี้ได้รับการแก้ไขโดยการทำ trochlear wedge recession ร่วมกับ proximal tube realignment การประเมินผลจากการตรวจคลำและการใช้ขาของสุนัขภายหลังการผ่าตัดที่ 10 วัน, 4, 8 และ 12 สัปดาห์ พบว่ากลุ่มที่ 1 มีเพียง 4 เข่า (40%) ที่หายจากการมีสะบ้าเคลื่อน การตรวจที่ 10 วัน และ 4 สัปดาห์ภายหลังผ่าตัด พบมีสะบ้ากลับเคลื่อนออกจากร่อง trochlear sulcus ในทิศทางเดิม 4 เข่า (40%) ที่ 8 และ 12 สัปดาห์พบสะบ้าเคลื่อนเพิ่มเป็น 6 เข่า (60%) กลุ่มที่ 2 มีข้อเข่าหายจากสะบ้าเคลื่อน 3 เข่า (60%) การตรวจที่ 10 วัน, 4 และ 8 สัปดาห์ภายหลังผ่าตัด พบมีสะบ้ากลับเคลื่อนออกจากร่อง trochlear sulcus ในทิศทางเดิม 1 เข่า (20%) ที่ 12 สัปดาห์ พบสะบ้ากลับเคลื่อนออกจากร่อง trochlear sulcus ในทิศทางเดิมเพิ่มเป็น 2 เข่า (40%) กลุ่มที่ 3 การตรวจที่ 10 วัน, 4, 8 และ 12 สัปดาห์ พบสะบ้ายังคงอยู่ในร่อง trochlear sulcus 9 เข่า (90%) และพบสะบ้าเคลื่อนไปทางด้านตรงกันข้าม เนื่องจากแก้ไขมากเกิน 1 เข่า (10%) กลุ่มที่ 4 มีข้อเข่าหายจากสะบ้าเคลื่อนเพียง 2 เข่า (40%) การตรวจที่ 10 วัน พบมีสะบ้าเคลื่อนออกจากร่อง trochlear sulcus ในทิศทางเดิม 1 เข่า (20%) เพิ่มเป็น 2 เข่า (40%) ที่ 4 สัปดาห์และเป็น 3 เข่า (60%) ที่ 8 และ 12 สัปดาห์ |
Other Abstract: | The correction of patellar luxation was performed on 30 stifle joints of dogs at Small Animal Hospital, Faculty of Veterinary Science, Chulalongkorn University. The stifles were divided into 4 groups. Group 1 consisted of 4 stifles with grade I and 6 stifles with grade II patellar luxation and were corrected by trochlear wedge recession. Only 4 stifles (40%) of this group had good recovery. Recurrence was found in 4 stifles (40%) at 10 days and 4 weeks after surgery and increased to 6 stifles (60%) at 8 and 12 weeks. All of 5 stifles of group 2 suffering from grade II patellar luxation were corrected by proximal tube realignment technique. Good recovery was shown in 3 stifles (60%). Recurrence was found in 1 stifle (20%) at 10 days, 4, and 8 weeks after surgery and increased to 2 stifles (40%) at 12 weeks. 10 stifles with grade II luxation of group 3 and 5 stifles with grade III luxation of group 4 were corrected by trochlear wedge recession in combination with proximal tube realignment. 9 stifles (90%) ofgroup 3 recovered well while 1 stifle was overcorrected. Only 2 stifles (40%) of group 4 had good recovery while recurrence was found in 1 (20%), 2 (40%), 3(60%), and 3 stifles (60%) at 10 day, 4, 8, and 12 weeks, respectively. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2545 |
Degree Name: | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree Level: | ปริญญาโท |
Degree Discipline: | ศัลยศาสตร์ทางสัตวแพทย์ |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/2567 |
ISBN: | 9741718462 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Vet - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Chalika_Wang.pdf | 1.33 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.