ผลของการฟอกเลือดและล้างไตทางหน้าท้องอย่างถาวรที่มีต่อความผิดปกติในการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง

Abstract

ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาผลของการฟอกเลือดและการล้างไตทางหน้าท้องอย่างถาวรที่มีต่อความผิดในการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังโดยได้ศึกษาในผู้ป่วยรวมทั้งสิ้น 13 คน เปรียบเทียบการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติกับกลุ่มควบคุม 5 คน ผู้ป่วยแต่ละรายได้รับการรักษาด้วยการฟอกเลือดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจึงได้รับการรักษาด้วยการล้างไตทางหน้าท้องถาวรต่อ ผู้ป่วยเหล่านี้ได้รับการทดสอบการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติที่มีระยะก่อนได้รับการรักษา หลังการฟอกเลือด 2 สัปดาห์ หลังการล้างไตทางหน้าท้องถาวรนาน 2 สัปดาห์ และ 3 เดือนตามลำดับ การทดสอบการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติประกอบด้วยการวัดการเปลี่ยนแปลงความดันเลือดเมื่อเปลี่ยนอริยาบทจากนอนเป็นนั่ง การทำวาลซาลว่า การวัดการเปลี่ยนแปลงอัตราการเต้นของหัวใจตอบสนองต่อการออกแรงบีบ มือ ตอบสนองต่อการหายใจ ผลการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังทุกรายมีผลการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติผิดปกติอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับคนปกติ เมื่อเปรียบเทียบการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติในผู้ป่วยเหล่านี้ในระยะก่อนได้รับการรักษากับระยะภายหลังการฟอกเลือด และภายหลังการล้างไตทางหน้าท้องถาวรนาน 2 สัปดาห์ก็พบว่าการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติที่ผิดปกติเหล่านี้ไม่ดีขึ้นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามพบว่าภายหลังที่ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยการล้างไตทางหน้าท้องถาวรเป็นเวลานาน 3 เดือน ผู้ป่วยกลับมีการตอบสนองของอัตราเต้นหัวใจต่อการทำวาลซาลว่าที่ดีขึ้นกว่าระยะก่อนได้รับการรักษาอย่างมีนัยสำคัญ อนึ่งในการวิจัยครั้งนี้ได้ศึกษาหาความสัมพันธ์ระหว่างพาราทัยรอยด์ฮอร์โมน แร่ธาตุจำนวนน้อยในร่างกาย กับการทำงานผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติในผู้ป่วยเหล่านี้ด้วยและพบว่าระดับของฮอร์โมนและแร่ธาตุเหล่านี้ไม่มีความสัมพันธ์กับการทำงานผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติแต่อย่างใด สรุปผลการวิจัยได้ว่าการฟอกเลือดและการล้างไตทางหน้าท้องถาวรไม่สามารถแก้ไขการทำงานผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังได้และการเปลี่ยนแปลงของระดับพาราทัยรอยด์ฮอร์โนและแร่ธาตุจำนวนน้อยในร่างกายไม่ได้เป็นสาเหตุทำให้เกิดมีการทำงานผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังแต่อย่างใด