Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/28473
Title: | การพัฒนาอุปกรณ์ตรวจวัดก๊าซเรดอนและทอรอนโดยใช้เอ็นทีดี |
Other Titles: | Development of a radon and thoron measuring device using NTD |
Authors: | ศรินทร สุวรรณพงศ์ |
Advisors: | นเรศร์ จันทน์ขาว |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย |
Issue Date: | 2532 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | การวิจัยนี้มีจุดประสงค์ที่จะพัฒนาเทคนิคและอุปกรณ์ที่ใช้ในการแยกตรวจวัดก๊าซเรดอนและทอรอนโดยใช้เอ็นทีดี ชนิดเซลลูโลสไน เตรท Kodak LR 115 type II การแยกวัด เรดอนและทอรอนนี้อาศัยความแตกต่างของระยะการแพร่กระจายของก๊าซซึ่งขึ้นอยู่กับค่าครึ่งชีวิต ได้ทดลองหาการแพร่ของก๊าซทั้งสองโดยเปรียบเทียบความหนาแน่นรอยสัมพัทธ์บนแผ่นฟิล์มที่ติดที่ระยะต่างๆ โดยใช้เรเดียม-226 และทอเรียมออกไซด์เป็นต้นกำเนิดก๊าซ จากการวิจัยพบว่า ในช่วงระยะ 50 เซนติเมตร ความหนาแน่นรอยสัมพัทธ์ของเรดอนลดลงเหลือ 85.42 เปอร์เซ็นต์ ที่อุณหภูมิ 27 - 30 องศาเซลเซียส ในขณะที่ความหนาแน่นรอยสัมพัทธ์ของทอรอนจะลดลงเหลือ 0.38, 2.29 และ 0 เปอร์เซ็นต์ ที่อุณหภูมิห้อง (27 - 30 องศาเซลเซียส) 22 และ 40 องศาเซลเซียส ตามลำดับ อุปกรณ์ที่ออกแบบสร้างขึ้นนี้ ประกอบด้วยท่อพีวีซีขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 8 เซนติเมตร ยาว 70 เซนติเมตร ปลายด้านบนปิด ส่วนปลายด้านล่างเปิด มีแผ่นฟิล์มเซลลูโลสในเตรทขนาด 2x3 เซนติเมตร ติดอยู่ที่กรอบติดแผ่นฟิล์มในท่อพีวีซีแผ่นฟิล์มด้านล่างนั้นจะติดให้ด้าน เซลลูโลสไนเตรทหงายขึ้น เพื่อบันทึกรอยรังสีจากเรดอนและทอรอน ส่วนแผ่นฟิล์มด้านบนจะคว่ำด้านเซลลูโลสไนเตรทลงเพื่อบันทึกรอยเฉพาะเรดอน ระยะห่างระหว่างแผ่น ฟิล์มทั้งสองเท่ากับ 50 เซนติเมตร ได้ทดสอบการแยกตรวจวัดก๊าซทั้งสองโดยใช้อุปกรณ์นี้กับเรเดียม-226 ทอ เรียมออกไซด์ โมนาไซท์ และแร่ยูเรเนียม รวมทั้งทำการทดสอบในภาคสนาม สามารถวัดความหนาแน่นรอยของก๊าซเรดอนและทอรอนได้ในช่วง 11,700 – 24,200 และ 1,800 - 10,950 รอย/ตารางเซนติเมตร ตามลำดับ และใช้สปาร์คเคาน์เตอร์นับจำนวนรอยเพื่อเปรียบ เทียบผลด้วย พบว่าจำนวนรอยที่นับได้เป็นสัดส่วนโดยตรงกับความหนาแน่นรอยที่นับได้จากกล้องจุลทรรศน์ |
Other Abstract: | The objective of this thesis was to develop a technique and a device for radon and thoron measurements by using a nuclear track detector (NTD). For this purpose, the Kodak LR 115 cellulose nitrate film was used. Discrimination of radon and thoron was done based on the differences in their diffusion lengths which were dependent upon their half-lives. The diffusion lengths were determined from relative track density on the films which were placed at different distances from radium-226 and thorium oxide. It was found that in 50 cm the radon track density was reduced to 85.42 % at room temperature (27 - 30 °C) whereas the thoron track density was reduced to 0.38, 2.29 and 0 % at room temperature (27 - 30 °C), 22 °c and ^0 °c respectively. The device consisted of a 70 cm long and 8 cm diameter PVC pipe with the top end closed and the bottom end opened. Two pieces of 2 cm X 3 cm cellulose nitrate films were placed inside the pipe. The first film was attached to the top end for radon track registration and the other was attached to the grid near the open end for radon and thoron track registration. The bottom film was 50 cm away from the top one. The device was tested for radon and thoron measurement by using radium-226, thorium oxide, monazite and uranium ore. Field test was also carried out, and the radon and thoron track densities were found to be in the range of 11,700 to 24,200 and 1,800 to 10,950 tracks/cm2, respectively. A spark counter was also used in track counting. It showed that the number of counts was directly proportional to the track density obtained from an optical microscope. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2532 |
Degree Name: | วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree Level: | ปริญญาโท |
Degree Discipline: | นิวเคลียร์เทคโนโลยี |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/28473 |
ISBN: | 9745762741 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Grad - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Sarintorn_su_front.pdf | 12.15 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Sarintorn_su_ch1.pdf | 2.32 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Sarintorn_su_ch2.pdf | 16.51 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Sarintorn_su_ch3.pdf | 5.95 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Sarintorn_su_ch4.pdf | 19.72 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Sarintorn_su_ch5.pdf | 20.09 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Sarintorn_su_ch6.pdf | 9.35 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Sarintorn_su_back.pdf | 6.09 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.