Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/31161
Title: | การใช้โพลีเอทีลีนชนิดความหนาแน่นต่ำเป็นสารทำให้แข็งตัว สำหรับการผนึกกากกัมมันตรังสีระดับต่ำ |
Other Titles: | Use of low density polyethylene as a solidifying agent for low level radioactive waste immobilization |
Authors: | บุญฉวี ศรีหมอก |
Advisors: | สุพิชชา จันทรโยธา ชยากริต ศิริอุปถัมภ์ |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย |
Issue Date: | 2539 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | การทดลองใช้โพลีเอทีลีนชนิดความหนาแน่นต่ำที่มีดัชนีการไหล 0.05 กรัมต่อนาทีเป็นสารทำให้แข็งตัวสำหรับการผนึกกากกัมมันตรังสีจำลองระดับต่ำประเภท สลัดจ์ เถ้า เรซิน โซเดียมซัลเฟตและกรดบอริก โดยทำการผนึกกากฯ ทุกประเภทที่ปริมาณ 10, 30 และ 50 เปอร์เซ็นต์ โดยน้ำหนัก จากนั้นทำการทดสอบ ความทนทานต่อแรงกด ความต้านทางแรงดึง ความทนทานต่อสารเคมีและความทนทานต่อถูกชะล้างของผลิตภัณฑ์กากฯ ผนึกที่ถูกผลิตขึ้น เทียบค่าที่ได้จากการทดสอบกับค่ามาตรฐานกำหนดโดยหน่วยงาน USNRC เพื่อยืนยันว่าสามารถใช้โพลีเอทีลีนในการผนึกกากฯ แม้กระทั่งกากฯ ประเภทเรซินที่ไม่สามารถผนึกได้ดีในวัสดุประเภทอื่น ผลปรากฏว่าผลิตภัณฑ์กากฯ ผนึกประเภท สลัดจ์ เถ้า เรซิน โซเดียมซัลเฟตและกรดบอริก มีค่าความทนทานต่อแรกงกดที่จุดครากสูงสุดมีค่าประเมาณ 1372, 1470, 1074, 1235 และ 1025 psi ตามลำดับ ค่าความต้านทานแรงดึงที่จุดขาดสูงสุดมีค่าประมาณ 1391, 1699, 1338, 1461 และ 1405 psi ตามลำดับ มีค่าดัชนีการถูกชะล้างของซีเซียม- 137 และโคบอลต์-60 สูงสุดแสดงเป็นคู่ลำดับ 8.9, 8.0 7.4,10.8 8.2,8.7 8.0,8.5 และ 7.8,92 ตามลำดับของกากฯผนึกข้างต้น และสามารถทนทานต่อสารเคมีได้ดี นอกจากนี้ยังพบว่าโพลีเอทีลีนชนิดความหนาแน่นต่ำมีความสามารถผนึกกากฯประเภทเรซินได้ในปริมาณสูงกว่าผนึกกากฯเรซินในวัสดุซีเมนต์ |
Other Abstract: | This study used the low density polyethylene with melt index of 0.50 gram per minute to solidifiy five simulated low level waste; activated sludge, incinerator ash, spent resin, sodium sulphate and boric acid. Each type of the polyethylene waste forms contains 10, 30 and 50 wt% simulated waste. Tests of compressive strength, tensile strength, chemical resistant and leachability of the produced waste forms were performed. The results were also compared to the standard value recommended by United State Nuclear Regulatory Commission (USNRC) to ensure the use of low density polyethylene as solidifying agent even in the of problem waste as spent resin. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2539 |
Degree Name: | วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree Level: | ปริญญาโท |
Degree Discipline: | นิวเคลียร์เทคโนโลยี |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/31161 |
ISBN: | 9746339037 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Grad - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Boonchawee_sr_front.pdf | 971.72 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Boonchawee_sr_ch1.pdf | 721.73 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Boonchawee_sr_ch2.pdf | 1.59 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Boonchawee_sr_ch3.pdf | 1.12 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Boonchawee_sr_ch4.pdf | 1.5 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Boonchawee_sr_ch5.pdf | 518.52 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Boonchawee_sr_back.pdf | 2.83 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.