Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/36651
Title: ผลของไนโตรเจนต่อความต้านทานการกัดกร่อนของเหล็กกล้าไร้สนิมดูเพล็กซ์ที่มีส่วนผสมโครเมียม 28% นิกเกิล 7% ในสารละลายโซเดียมคลอได์ความเข้มข้น 3.5 % โดยน้ำหนัก
Other Titles: Effects of Nitrogen on Corrosion Resistance of 28%Cr-7%Ni Duplex Stainless Steels in 3.5
Authors: พรวสา วงศ์ปัญญา
Advisors: กอบบุญ หล่อทองคำ
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิศวกรรมศาสตร์
Issue Date: 2546
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้ศึกษาผลของไนโตรเจนต่อความต้านทานการกัดกร่อนของเหล็กกล้าไร้สนิมดูเพล็กซ์และเหล็กกล้าไร้สนิมไมโครดูเพล็กซ์ที่มีส่วนผสมโครเมียม 28 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก นิกเกิล 7 เปอร์เซ็นต์ โดยน้ำหนัก ในสารละลายโซเดียมคลอไรด์ความเข้มข้น 3.5 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก อุณหภูมิ 27 องศาเซลเซียสค่าพีเอช 2, 7 และ 10 โดยอาศัยเทคนิคทางไฟฟ้าเคมีวัดเส้นโพลาไรเซชันแล้วหาค่าตัวแปรการกัดกร่อน ผลการศึกษาพบว่าพฤติกรรมการกัดกร่อนของเหล็กกล้าไร้สนิมดูเพล็กซ์ที่แต่ละค่าพีเอชแตกต่างกัน ที่พีเอช 2 ไนโตรเจนช่วยเพิ่มค่าศักย์ไฟฟ้าการกัดกร่อน (corrosion potential, Ecorr) และค่าศักย์ไฟฟ้าการกัดกร่อนแบบรูเข็มหรือหลุม (pitting potential, Ep) ลดค่าความหนาแน่นกระแสไฟฟ้าการกัดกร่อน (corrosion current density, Icorr) ค่าอัตราการกัดกร่อน (corrosion rate, Rmpy) และค่าความหนาแน่นกระแสไฟฟ้าขณะวัสดุเกิดฟิล์มที่ผิว (passive current density, Ip) ที่พีเอช 7 และ 10 ไนโตรเจนไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงค่าศักย์ไฟฟ้าการกัดกร่อน (corrosion potential, Ecorr) ค่าความหนาแน่นกระแสไฟฟ้าการกัดกร่อน (corrosion current density, Icorr) และค่าอัตราการกัดกร่อน (corrosion rate, Rmpy) แต่พบว่าไนโตรเจนช่วยเพิ่มค่าความหนาแน่นกระแสไฟฟ้าขณะวัสดุเกิดฟิล์มที่ผิว (passive current density, Ip) และค่าศักย์ไฟฟ้าการกัดกร่อนแบบรูเข็มหรือหลุม (pitting potential, Ep) เหล็กกล้าไรสนิมดูเพล็กซ์และเหล็กกล้าไร้สนิมไมโครดูเพล็กซ์มีพฤติกรรมกัดกร่อนคล้ายกันผลการทดสอบแสดงว่าปริมาณความเข้มข้นของโปรตรอนในสารละลายมีผลต่อพฤติกรรมการกัดกร่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการกระบวนการเกิดฟิล์มมพาสสีฟ ผลการตรวจสอบโครงสร้างจุลภาคของบริเวณที่ถูกกัดกร่อนในช่วงค่าศักย์ไฟฟ้าทรานพาสสีฟ (transpassive potentials) พบว่าความต้านทานการกัดกร่อนของโครงสร้างออสเตไนต์เพิ่มขึ้นเมื่อส่วนผสมไนโตรเจนเพิ่มขึ้น ที่ส่วนผสมไนโตรเจนน้อย ๆ โครงสร้างออสเตไนต์ถูกกัดกร่อน สำหรับเหล็กกล้าไร้สนิมดูเพล็กซ์ที่ส่วนผสมไนโตรเจนมากกว่า 0.1100 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก และสำหรับเหล็กกล้าไร้สนิมไมโครดูเพล็กซ์ที่ส่วนผสมไนโตรเจนมากกว่า 0.00440 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักพบว่าโครงสร้างเฟอร์ไรต์ถูกกัดกรอน ปริมาณส่วนผสมไนโตรเจนที่เหมาะสมสำหรับเหล็กกล้าไร้สนิมดูเพล็กซ์ที่มีส่วนผสมโครเมียม 28 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก นิกเกิล 7 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก คือ 0.2300 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก ส่วนเหล็กกล้าไร้สนิมไมโครดูเพล็กซ์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดและควรมีการศึกษาต่อไป
Other Abstract: The objective of this research is to study the effect of nitrogen on the corrosion behaviors of duplex and micro-duplex stainless steels with 28%Cr and 7% Ni in 3.5 wt. % NaCl solution at 27℃. The specimens were tested at pH 2, 7 and 10 by electrochemical technique to measure the polarization curves, which can be interpreted for studying the corrosion behaviors. The corrosion behaviors of duplex and micro-duplex stainless steels are similar, but are different at each pH. At pH 2, when nitrogen contents increase the corrosion potential (Ecorr) as well as pitting potential (Ep) increase, but corrosion current density (Icorr), corrosion rate (Rmpy) and passive current density (Ip) decrease. At pH 7 and 10, the nitrogen effect on corrosion potential (Ecorr), corrosion current density (Icorr) and corrosion rate (Rmpy) cannot be observed. However, passive current density (Ip) and pitting potential (Ep) increase. From the results, it can be seen that the amount of [H+] in the solution influences on corrosion behaviors of duplex and micro-duplex stainless steels especially forming passive film.
Description: วิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2546
Degree Name: วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: วิศวกรรมโลหการ
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/36651
ISSN: 9741740212
Type: Thesis
Appears in Collections:Eng - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Pornwasa_wo_front.pdf8.08 MBAdobe PDFView/Open
Pornwasa_wo_ch1.pdf1.57 MBAdobe PDFView/Open
Pornwasa_wo_ch2.pdf7.17 MBAdobe PDFView/Open
Pornwasa_wo_ch3.pdf4.17 MBAdobe PDFView/Open
Pornwasa_wo_ch4.pdf10.8 MBAdobe PDFView/Open
Pornwasa_wo_ch5.pdf1.68 MBAdobe PDFView/Open
Pornwasa_wo_back.pdf17 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.