Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/45129
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | สุชาดา ชุติมาวรพันธ์ | - |
dc.contributor.author | ทิพย์วิมล จุลหาญกิจ | - |
dc.contributor.author | นฤมล สุขวจีคล่อง | - |
dc.contributor.author | นลินี งามโชคชัยเจริญ | - |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะเภสัชศาสตร์ | - |
dc.date.accessioned | 2015-09-10T03:26:35Z | - |
dc.date.available | 2015-09-10T03:26:35Z | - |
dc.date.issued | 2555 | - |
dc.identifier.other | Sepr 10/55 ค2.5 | - |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/45129 | - |
dc.description.abstract | การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสูตรตารับครีมโคเอนไซม์คิวเทนนาส่งในรูปแบบไมโครสปอนจ์ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปลดปล่อยสารโคเอนไซม์คิวเทนและช่วยเพิ่มความคงตัวต่อแสงและอุณหภูมิของ โคเอนไซม์คิวเทนที่สามารถเกิดการสลายตัวได้เมื่อได้รับความร้อนหรือแสง โดยในการวิจัยนี้เตรียม ไมโครสปอนจ์ด้วยวิธี Quasi-emulsion solvent diffusion ใช้เอทิลเซลลูโลส 10 เซนติพอยต์ เป็นพอลิเมอร์ จากการวิจัยได้ศึกษาปัจจัยของอัตราเร็วในการปั่นผสมที่อัตราเร็ว 1000, 1500 และ 2000 รอบต่อนาที และอัตราส่วนของโคเอนไซม์คิวเทนต่อเอทิลเซลลูโลส 1:1, 2:1 และ 3:1 ที่ส่งผลต่อคุณลักษณะของไมโครสปอนจ์ที่ได้ โดยผลผลิตไมโครสปอนจ์ที่เตรียมได้อยู่ในช่วงร้อยละ 80 – 85 โดยน้าหนัก เมื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพในการกักเก็บโดยการวัดการดูดกลืนแสงที่ 275 นาโนเมตรพบว่ามีค่าเฉลี่ยร้อยละโดยมวลเท่ากับ 70.36 ± 4.88 และพบว่าถ้าเพิ่มอัตราเร็วในการปั่นผสม และอัตราส่วนของโคเอนไซม์คิวเทนต่อเอทิลเซลลูโลส อนุภาคจะมีขนาดที่เล็กลง จากผลการทดลองทั้งหมดพบว่าขนาดอนุภาคที่ได้อยู่ในช่วงประมาณ 20-60 ไมครอนซึ่งอนุภาคไมโครสปอนจ์ที่มีขนาด 25-30 ไมครอนไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกหยาบเมื่อทาบนผิว นอกจากนี้เมื่อวิเคราะห์การปลดปล่อยด้วยวิธีการวัดการดูดกลืนแสงที่ 275 นาโนเมตรพบว่าในตัวทาละลายที่เป็นโพรพิลีนไกลคอลไมโครสปอนจ์สามารถปลดปล่อยโคเอยไซม์คิวเทนออกมาได้ร้อยละมวลต่อปริมาตร 0.94 ± 0.12 ภายใน 24 ชั่วโมงเมื่อเปรียบเทียบกับผงโคเอนไซม์คิวเทนที่ละลายได้ร้อยละมวลต่อปริมาตร 0.74 ± 0.02 ภายใน 24 ชั่วโมง จะเห็นว่าการเตรียมสารโคเอนไซม์คิวเทนให้อยู่ในรูปไมโครสปอนจ์นั้นช่วยให้สารโคเอนไซม์คิวเทนมีการละลายและปลดปล่อยออกมาได้ดีขึ้น ในการวิจัยนี้ยังได้มีการคัดเลือกไมโครสปอนจ์ที่บรรจุโคเอนไซม์คิวเทนที่มีคุณสมบัติที่ดีคือไมโครสปอนจ์ที่มีขนาดอนุภาค 29.11 ± 0.55 ไมครอน มีร้อยละมวลต่อปริมาตรการปลดปล่อยเท่ากับ 1.20±0.03 มาเตรียมเป็นตารับครีมซึ่งครีมที่ได้มีลักษณะเนื้อละเอียด สีเหลืองส้ม ทาแล้วไม่รู้สึกหยาบเมื่อทาบนผิว | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | เอนไซม์ | en_US |
dc.subject | ยูบิควิโนน | en_US |
dc.subject | Enzymes | en_US |
dc.subject | Ubiquinones | en_US |
dc.title | การพัฒนาสูตรตำรับครีมโคเอนไซม์คิวเทนในรูปการนำส่งแบบไมโครสปอนจ์ | en_US |
dc.title.alternative | Development of coenzyme Q10 creams using microsponges delivery system | en_US |
dc.type | Senior Project | en_US |
Appears in Collections: | Pharm - Senior projects |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
tipwimol_ju.pdf | 2.44 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.