Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/48724
Title: | การผลิตโมโนโคลนอลแอนติบอดีของพลาสโมเดียม ฟัลซิปารัม ระยะที่อยู่ในเม็ดเลือดแดง |
Other Titles: | Production of monoclonal antibodies against the erythrocytic stages of plasmodium falciparum |
Authors: | วรรณี อังคศิริสรรพ |
Email: | ไม่มีข้อมูล |
Advisors: | วิมล พานิชยการ สดศรี ไทยทอง |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย |
Advisor's Email: | ไม่มีข้อมูล |
Subjects: | พลาสโมเดียมฟัลซิปารัม โมโนโคลนอลแอนติบอดีย์ แอนติเจน มาลาเรีย |
Issue Date: | 2535 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | การผลิตโมโนโคลนอลแอนติบอดีต่อเชื้อ พลาสโมเดียม ฟัลซิปารัม ระยะที่อยู่ในเม็ดเลือดแดงโดยทำการเชื่อมเซลล์ NS-1 ซึ่งเป็นเซลล์ myeloma กับเซลล์ม้ามของหนู Balb/c ที่ถูกกระตุ้นภูมิคุ้มกัน จากการเชื่อมเซลล์ 8 ครั้งได้เซลล์ลูกผสมทั้งหมดจำนวน 1024 หลุมของจานเพาะเลี้ยงเซลล์ และมีอยู่ 177 หลุม (17.5%) ที่หลั่งแอนติบอดีที่มีความจำเพาะกับเชื้อมาลาเรียและได้คัดเลือกมา 13 หลุมเพื่อทำ single cell cloning ได้ monoclone ทั้งหมด 58 monoclone สามารถจำแนกโมโนโคลนอลแอนติบอดีตามรูปแบบการติดสีสารเรืองแสงได้เป็น 6 กลุ่ม ดังนี้ คือ กลุ่มที่ 1 ทำปฏิกิริยากับ rhoptry organelle ของเชื้อมาลาเรียระยะ schizont และ merozoite กลุ่มที่ 2 ทำปฏิกิริยาเรืองแสงเข้มที่บริเวณผิวเซลล์ของ schizont และ merozite ที่อยู่ภายในเซลล์ schizont การติดสีสารเรืองแสงของกลุ่มนี้มีลักษณะคล้ายพวงองุ่น กลุ่มที่ 3 ทำปฏิกิริยาเรืองแสงเป็นจุดเล็กๆ บริเวณเยื่อหุ้มเซลล์เม็ดเลือดแดงที่ติดเชื้อ กลุ่มที่ 4 ติดสีสารเรืองแสงที่บริเวณไซโตปลาสซึมของเชื้อทุกระยะการเจริญในเม็ดเลือดแดงรวมทั้งระยะ gametocyte กลุ่มที่ 5 ทำปฏิกิริยาเรืองแสงที่เยื้อหุ้ม parasitophorous vacuole ของเชื้อ และกลุ่มที่ 6 นั้นจะทำปฏิกิริยาเรืองแสงบริเวณไซโตปลาสซึมและผิวเซลล์ของเชื้อทุกระยะการเจริญรวมทั้งระยะ gametocyte เมื่อนำโมโนโคลนอลแอนติบอดีกลุ่มที่ 2-6 มาใช้ศึกษาความหลากหลายของแอนติเจนของเชื้อมาลาเรีย พลาสโมเดียม ฟัลซิปารัม 18 ไอโซเลตที่ได้จากผู้ป่วยในประเทศไทยที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค สามารถจำแนกไอโซเลตของเชื้อมาลาเรียดังกล่าวออกเป็นไทพ์ต่างๆ ได้ 10 ไทพ์ |
Other Abstract: | Production of monoclonal antibodies (MAbs) against the blood forms of Plasmodium falciparum was made after fusion of NS-1 myeloma cells with the spleen cells from an immunized Balb/c mice. In eight fusion experiments 1024 hybrids were obtained of which 117 (17.5%) secreted malaria specific antibodies. From 13 hybrids 58 monoclonal lines were obtained by single cell cloning. MAbs could be divided into 6 groups based on their immunofluorescent staining patterns. Group 1 MAbs reacted with rhoptry organelle of schizont and merozoite. Group 2 MAbs reacted strongly with the cell surface of schizont and intraschizont merozoites which took the form of a cluster of grapes. Group 3 MAbs reacted to produce a pattern of intensely bright dots around the infected red blood cell membrane. Group 4 MAbs showed bright staining of the cytoplasm of all blood stages including gametocytes. Group 5 MAbs reacted with the parasitophorous vacuole membrane. Group 6 MAbs reacted with the cytoplasm and the cell surface of all blood stages including gametocytes. MAbs group 2 to 6 were used to demonstrate considerable antigenic diversity in 18 isolates of P.falciparum which were obtained from patients in endemic areas of Thailand. Different isolates were distinguished by their ability to react with certain antibodies and those isolates could be divided into 10 different types. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2535 |
Degree Name: | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree Level: | ปริญญาโท |
Degree Discipline: | สัตววิทยา |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/48724 |
ISBN: | 9745810258 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Grad - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Wannee_an_front.pdf | 1.1 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Wannee_an_ch1.pdf | 337.12 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Wannee_an_ch2.pdf | 2.08 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Wannee_an_ch3.pdf | 2.24 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Wannee_an_ch4.pdf | 1.82 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Wannee_an_ch5.pdf | 656.61 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Wannee_an_ch6.pdf | 332.14 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Wannee_an_back.pdf | 1.43 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.