Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/50346
Title: | การวิเคราะห์มิวเทชันของยีน CYP11B1 ในผู้ป่วยชาวไทยที่มีภาวะขาด 11บีตาไฮดรอกซิเลส |
Other Titles: | Mutation analysis of CYP11B1 gene in Thai patients with 11ß-hydroxylase deficiency |
Authors: | ภัทรณัชชา ชาญวิชัย |
Advisors: | ภัทรา ยี่ทอง ธนินี สหกิจรุ่งเรือง |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิทยาศาสตร์ |
Advisor's Email: | Patra.Y@chula.ac.th,patra163@hotmail.com Taninee.P@Chula.ac.th |
Subjects: | การกลายพันธุ์ Mutation (Biology) Adrenogenital syndrome |
Issue Date: | 2558 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | ภาวะขาด 11บีตาไฮดรอกซิเลส (11ß-hydroxylase deficiency; 11ß-OHD) เป็นภาวะที่พบได้มากเป็นอันดับที่สองในกลุ่มโรคเปลือกต่อมหมวกไตหนาแต่กำเนิด โดยพบประมาณร้อยละ 5-8 ของผู้ป่วยโรคเปลือกต่อมหมวกไตหนาแต่กำเนิดทั้งหมด อาการหลักของผู้ป่วย คือ มีลักษณะที่แข็งแรงแบบเพศชายแม้ผู้ป่วยจะเป็นเพศหญิง, ความดันโลหิตสูง และมีอาการอวัยวะเพศกำกวมในเพศหญิง เนื่องมาจากความบกพร่องของเอนไซม์ 11บีตาไฮดรอกซิเลส ในกระบวนการสังเคราะห์ฮอร์โมนคอร์ติซอล โดยสาเหตุเกิดมาจากการเกิดมิวเทชันในยีน CYP11B1 ซึ่งเป็นยีนที่ผลิตเอนไซม์ 11บีตาไฮดรอกซิเลส วัตถุประสงค์ในการศึกษาเพื่อวิเคราะห์หามิวเทชันในยีน CYP11B1 ในผู้ป่วยชาวไทย 3 ราย ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะขาด 11บีตาไฮดรอกซิเลส อีกทั้งศึกษาผลของมิวเทชันที่พบในผู้ป่วยที่มีภาวะขาด 11บีตาไฮดรอกซิเลส โดยได้วิเคราะห์และหามิวเทชันในทุกเอ็กซอนรวมทั้งรอยต่อระหว่างเอ็กซอนและอินทรอนของยีน CYP11B1 พบว่าผู้ป่วยรายที่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นพี่น้องกันพบ compound heterozygous c.421C>T (p.R141X) และ c.1200+1G>A (IVS7 (ds, +1) GTG>ATG) ในผู้ป่วยรายที่ 3 พบ compound heterozygous c.714_740delTTCAT GCCCAGGAGCCTGTCTCGCTG และ c.1121G>A (p.R374Q) จากนั้นทำการทดลองด้วย minigene เพื่อศึกษาผลของมิวเทชันแบบ splice site พบว่า อาร์เอ็นเอของผู้ป่วยมีความแตกต่างกับอาร์เอ็นเอของคนปกติ ซึ่งพบอาร์เอ็นเอที่ผิดปกติ 2 ชนิดด้วยกัน คือ อาร์เอ็นเอที่ไม่มีเอ็กซอนที่ 7 และอาร์เอ็นเอที่ไม่มีเอ็กซอนที่ 7-8 ในผู้ป่วยนั่นเอง จากการทดลองดังกล่าว ทำให้ยืนยันได้ ว่า มิวเทชันแบบ splice site นี้ เป็นผลทำให้การตัดอินทรอนในกระบวนการถอดรหัสของผู้ป่วยเกิดความผิดพลาดและส่งผลให้เกิดภาวะขาด 11บีตาไฮดรอกซิเลส |
Other Abstract: | 11ß-hydroxylase deficiency (11ß-OHD) is the second most common of congenital adrenal hyperplasia (CAH) accounting for 5-8% of all CAH cases. The main phenotype of this disorder is virilization, hypertension and ambiguous genitalia. 11ß-OHD is an autosomal recessive enzyme defect impairing the biosynthesis of cortisol caused by mutation in CYP11B1 gene. The purpose of this study is to screen the mutations in CYP11B1 gene in three Thai patients with congenital adrenal hyperplasia due to 11ß-OHD and to study the genotypic and phenotypic correlation of mutation in patients. We performed mutation analysis of the coding and intron-exon junction region of CYP11B1 gene in two siblings and one unrelated Thai patient with 11ß-OHD. The results of mutation analysis showed a compound heterozygous mutation; c.421C>T (p.R141X) and c.1200+1G>A (IVS7 (ds, +1) GTG>ATG) in two siblings and a compound heterozygous mutation; c.714_740delTTCATGCCCAGGAGCCTGTCTCGCTG and c.1121G>A (p.R374Q) in another patient. A splice site mutation in the splice donor site of intron 7 might be causing 11ß-OHD. In addition, minigene experiment was performed to confirm the pathogenicity of the splicing variant. It showed 2 types of RNA; the first skipped exon 7 and the second skipped exon 7-8 which lead to produce abnormal protein. Thus, this splice site mutation causes 11ß-OHD in the patient which affects the gene splicing during post-transcriptional process. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2558 |
Degree Name: | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree Level: | ปริญญาโท |
Degree Discipline: | พันธุศาสตร์ |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/50346 |
URI: | http://doi.org/10.14457/CU.the.2015.853 |
metadata.dc.identifier.DOI: | 10.14457/CU.the.2015.853 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Sci - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
5672044423.pdf | 5.24 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.