Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/53116
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorทศพร วิมลเก็จ-
dc.contributor.advisorมานัส มงคลสุข-
dc.contributor.advisorสมรัตน์ เลิศมหาฤทธิ์-
dc.contributor.authorศุภขจี แสงเรืองอ่อน-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะแพทยศาสตร์-
dc.date.accessioned2017-06-24T08:35:41Z-
dc.date.available2017-06-24T08:35:41Z-
dc.date.issued2551-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/53116-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (วท.ด.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิยาลัย, 2551en_US
dc.description.abstractการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิภาพของการควบคุมคุณภาพของเครื่องเอกซเรย์ทั่วไปใน 4 ส่วน (การจัดคอลลิเมเตอร์และลำรังสี, ความคงตัวของกระแสหลอด, การจัดเรียงตัวของกริด และการวัดขนาดของโฟคอลสปอต) ระหว่างการใช้เครื่องอ่านและแปลงสัญญาณภาพเอกซเรย์เป็นดิจิตอล (Computed Radiography; CR) และวิธีฟิล์ม ทำการศึกษาการใช้เครื่อง CR ในการควบคุมคุณภาพเครื่องเอกซเรย์ทั่วไปโดยเปรียบเทียบกับวิธีฟิล์มซึ่งเป็นวิธีมาตรฐาน โดยใช้ผู้วัด 2 คนที่อิสระต่อกันในการวิเคราะห์ผลของการควบคุมคุณภาพของทั้ง 2 วิธี การประเมินผลทางเศรษฐศาสตร์กระทำโดยใช้การวิเคราะห์ต้นทุนที่ต่ำสุด ในมุมมองของให้ผู้บริการ โดยข้อมูลทั้งหมด (การควบคุมคุณภาพ, ต้นทุน) รวบรวมจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าระหว่างเดือนสิงหาคม พ.ศ.2550 ถึงเดือนมกราคม พ.ศ. 2551 ผลการศึกษา พบว่า ผลของการควบคุมคุณภาพเครื่องเอกซเรย์ทั่วไปโดยวิธี CR และวิธีฟิล์มมีความเทียบเคียงกัน ความสอดคล้องของผู้วิเคราะห์ผลทั้ง 2 คน อยู่ในระดับเกือบสมบูรณ์ ต้นทุนต่อการควบคุมคุณภาพ 1 ครั้งในแต่ละส่วนเมื่อใช้วิธีฟิล์มสูงกว่าเมื่อใช้วิธี CR โดยต้นทุนต่อการควบคุมคุณภาพ 1 ครั้งทั้ง 4 ส่วนสำหรับวิธีฟิล์มและวิธี CR เท่ากับ 851.79 บาท และ 308.74 บาท ตามลำดับ จากการวิเคราะห์ความไว พบว่า เมื่อต้นทุนค่าฟิล์มและต้นทุนค่าแรงเพิ่มขึ้น การประหยัดต้นทุนสำหรับการควบคุมคุณภาพทั้ง 4 ส่วนในปี 2552 จะเพิ่มขึ้นเป็น 560.45 บาท และในปี 2556 จะเพิ่มขึ้นเป็น 634.66 บาท อัตราส่วนของปริมาณรังสีระหว่างวิธีฟิล์มที่ใช้ในการควบคุมคุณภาพการจัดตัวของกริดเป็น 2.41 เท่าของวิธี CR โดยการวัดขนาดโฟคอลสปอตขนาดใหญ่ด้วยวิธีฟิล์มมีอัตราส่วนของปริมาณรังสีที่ใช้เมื่อเทียบกับวิธี CR สูงที่สุดเท่ากับ 49.11 เท่า นอกจากนั้นเวลาที่ใช้สำหรับเครื่อง CR ในการควบคุมคุณภาพเครื่องเอกซเรย์ทั่วไปน้อยกว่าวิธีฟิล์ม (p-value < 0.001) จากผลการศึกษาจะเห็นได้ว่าการใช้วิธี CR ในการควบคุมคุณภาพเครื่องเอกซเรย์ทั่วไปทั้ง 4 ส่วน มีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีฟิล์มเป็นอย่างมาก ดังนั้นในโรงพยาบาลที่ได้มีการนำเครื่อง CR มาใช้ในการบันทึกภาพเอกซเรย์ผู้ป่วย ก็จะสามารถนำเครื่อง CR มาประยุกต์ใช้ในการควบคุมคุณภาพเครื่องเอกซเรย์ทั่วไปได้ ทำให้การควบคุมคุณภาพเครื่องเอกซเรย์ทั่วไปสามารถกระทำได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปราศจากการใช้สารเคมีในกระบวนการอ่านข้อมูล เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการนำเข้าวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ และประหยัดต้นทุนเป็นอย่างมากอีกด้วยen_US
dc.description.abstractalternativeThe objective of this study was to evaluate the efficiency of quality control performances in four elements (collimator alignment test, milliampere-sec (mAs) reciprocity test, grid alignment test and determination of focal spot size) of a general x-ray machine for between computed radiography (CR) and film method. CR performance as a quality control method for general x-ray machine was compared to film method. Two raters independently analyzed the result of quality control from the both methods. Economic evaluation was performed by cost-minimization analysis. Applying the provider perspective, all data (result for quality control and cost) were collected from Phramongkutklao hospital during August 2007 to January 2008. This study found that quality control performances of a general x-ray machine by using CR and film methods were equivalent. Inter-observer agreement for analysis of quality control measurements was almost perfect. Unit costs of each quality control by using film method were higher than using CR method. Unit costs of four elements testing for film and CR methods were 851.79 baht and 308.74 baht, respectively. Using sensitivity analysis, when the price of film and labor cost were increased, the cost saving for four elements testing increased from 560.45 baht in the year 2009 to 634.66 baht in year 2013. The ratio of radiation dose between film and CR methods in grid alignment test was 2.41 times. The highest ratio of radiation dose was large focal spot measurement (49.11 times). Additionally, time consuming of all checking elements using CR method is less than film method with p-value < 0.001. From this research, it is very obvious that quality control of general X-ray machine by using CR method is more effective than using film method. Therefore, the hospitals that already used CR can apply their existing CR for implementing quality control with general X-ray machine. This will result in more convenience workflow, faster process and higher cost reduction. This method also friendly to the environment and the quantity of imported medical consumable material will be reduced as well.en_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.relation.urihttp://doi.org/10.14457/CU.the.2008.1108-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.subjectการบันทึกภาพด้วยรังสีen_US
dc.subjectรังสีเอกซ์ -- เครื่องมือและอุปกรณ์en_US
dc.subjectRadiographyen_US
dc.subjectX-rays -- Equipment and suppliesen_US
dc.titleการประเมินทางเศรษฐศาสตร์ของการควบคุมคุณภาพเครื่องเอกซเรย์ทั่วไประหว่างการใช้เครื่องอ่านและแปลงสัญญาณภาพเอกซเรย์เป็นดิจิตอลและการใช้ฟิล์มen_US
dc.title.alternativeEconomic evaluation of quality ontrol in general x-ray machine between computed radiography and filmen_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตen_US
dc.degree.levelปริญญาเอกen_US
dc.degree.disciplineเวชศาสตร์ชุมชนen_US
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.email.advisorthosporn@md.chula.ac.th-
dc.email.advisorไม่มีข้อมูล-
dc.email.advisorsomrat@md.chula.ac.th-
dc.identifier.DOI10.14457/CU.the.2008.1108-
Appears in Collections:Med - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
supakajee_sa_front.pdf1.8 MBAdobe PDFView/Open
supakajee_sa_ch1.pdf951.67 kBAdobe PDFView/Open
supakajee_sa_ch2.pdf4.82 MBAdobe PDFView/Open
supakajee_sa_ch3.pdf3.27 MBAdobe PDFView/Open
supakajee_sa_ch4.pdf11.34 MBAdobe PDFView/Open
supakajee_sa_ch5.pdf3.12 MBAdobe PDFView/Open
supakajee_sa_back.pdf37.23 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.