Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/54969
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorสมยศ ชิดมงคล-
dc.contributor.authorกมล นาคสุทธิ-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะครุศาสตร์-
dc.date.accessioned2017-10-30T04:21:57Z-
dc.date.available2017-10-30T04:21:57Z-
dc.date.issued2559-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/54969-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2559-
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เปรียบเทียบความสามารถในการให้เหตุผลทางเรขาคณิตของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคพรู้ฟแมปปิงในการเขียนพิสูจน์ทางเรขาคณิต ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 2) เปรียบเทียบความสามารถในการให้เหตุผลทางเรขาคณิตของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคพรู้ฟแมปปิงในการเขียนพิสูจน์ทางเรขาคณิต กับ นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบปกติ และ 3) ศึกษาพัฒนาการของความสามารถในการให้เหตุผลทางเรขาคณิตของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคพรู้ฟแมปปิงในการเขียนพิสูจน์ทางเรขาคณิต ประชากรในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครปฐม เขต 9 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา จำนวน 46 คน เป็นนักเรียนกลุ่มทดลอง จำนวน 23 คน และนักเรียนกลุ่มควบคุม จำนวน 23 คน โดยนักเรียนกลุ่มทดลองได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคพรู้ฟแมปปิงในการเขียนพิสูจน์ทางเรขาคณิต และนักเรียนกลุ่มควบคุมได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบวัดความสามารถในการให้เหตุผลทางเรขาคณิต เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคพรู้ฟแมปปิงในการเขียนพิสูจน์ทางเรขาคณิต และแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบปกติ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ค่าที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า 1) ความสามารถในการให้เหตุผลทางเรขาคณิตของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคพรู้ฟแมปปิงในการเขียนพิสูจน์ทางเรขาคณิต หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 2) ความสามารถในการให้เหตุผลทางเรขาคณิตของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคพรู้ฟแมปปิงในการเขียนพิสูจน์ทางเรขาคณิต สูงกว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 และ 3) พัฒนาการของความสามารถในการให้เหตุผลทางเรขาคณิตของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิค พรู้ฟแมปปิงในการเขียนพิสูจน์ทางเรขาคณิต มีพัฒนาการของความสามารถในการให้เหตุผลทางเรขาคณิตที่ดีขึ้น-
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this research were: 1) to compare geometric reasoning abilities of students between, before and after learning by organizing mathematics learning activities using proof mapping technique to write geometric proofs, 2) to compare geometric reasoning abilities of students between groups being organized mathematics learning activities using proof mapping technique to write geometric proofs and conventional approach, and 3) to study the geometric reasoning ability of students learning by organizing mathematics learning activities using proof mapping technique to write geometric proofs. The population of this research were eighth grade students in Nakhonpathom Education service area office 9 under the office of The Basic Education Commission, Ministry of Education. The subjects were 46 eighth grade students in academic year 2016 at Watraikhingwittaya School. They were divided into two groups, one experimental group with 23 students and the other control group with 23 students. The students in experimental group were organized mathematics learning activities using proof mapping technique to write geometric proofs and those in control group were organized mathematics learning activities using conventional approach. The data collecting instruments were geometric reasoning ability tests. The experimental instruments were lesson plans being organized mathematics learning activities using proof mapping technique to write geometric proofs and the conventional lesson plans. The data were analyzed by means of arithmetic mean, standard deviation and t-test. The results of the study revealed that: 1) the geometric reasoning ability of students after learning by organizing mathematics learning activities using proof mapping technique to write geometric proofs was higher than that before the experiment at .05 level of significance, 2) the geometric reasoning ability of students being organized mathematics learning activities using proof mapping technique to write geometric proofs was higher than that of students being organized mathematics learning activities using conventional approach at .05 level of significance, and 3) the geometric reasoning ability of students learning by organizing mathematics learning activities using proof mapping technique to write geometric proofs was developed in positive direction.-
dc.language.isoth-
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.relation.urihttp://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2016.240-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.titleผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคพรู้ฟแมปปิงในการเขียนพิสูจน์ทางเรขาคณิตที่มีต่อความสามารถในการให้เหตุผลทางเรขาคณิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2-
dc.title.alternativeEFFECT OF ORGANIZING MATHEMATICS LEARNING ACTIVITIES USING PROOF MAPPING TECHNIQUE TO WRITE GEOMETRIC PROOFS ON GEOMETRIC REASONING ABILITY OF EIGHTH GRADE STUDENTS-
dc.typeThesis-
dc.degree.nameครุศาสตรมหาบัณฑิต-
dc.degree.levelปริญญาโท-
dc.degree.disciplineการศึกษาคณิตศาสตร์-
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.email.advisorSomyot.C@Chula.ac.th,syot_chd@hotmail.com-
dc.identifier.DOI10.58837/CHULA.THE.2016.240-
Appears in Collections:Edu - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
5683301527.pdf7.27 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.