Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/55145
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorพรเทพ จันทราอุกฤษฎ์-
dc.contributor.advisorสิทธิพร ภัทรดิลกรัตน์-
dc.contributor.authorอัญญาพร สุคนธพันธ์-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะครุศาสตร์-
dc.date.accessioned2017-10-30T04:27:41Z-
dc.date.available2017-10-30T04:27:41Z-
dc.date.issued2559-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/55145-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2559-
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหาหลังเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีตัวอย่างเป็นฐาน 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีตัวอย่างเป็นฐานกับนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยวิธีสอนแบบทั่วไป 3) เพื่อศึกษาความสามารถในการประยุกต์ความรู้ชีววิทยาหลังเรียนของนักเรียนกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีตัวอย่างเป็นฐาน 4) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการประยุกต์ความรู้ชีววิทยาของนักเรียนกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีตัวอย่างเป็นฐานกับนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยวิธีสอนแบบทั่วไป กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 1 จำนวน 2 ห้องเรียน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง คือ นักเรียนกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีตัวอย่างเป็นฐาน จำนวน 50 คน และกลุ่มควบคุม คือ นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยวิธีสอนแบบทั่วไป จำนวน 51 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ แบบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาที่มีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.62 แบบวัดการประยุกต์ความรู้ชีววิทยาที่มีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.63 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติค่าเฉลี่ย ค่าเฉลี่ยร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบค่าที ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1) นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการแก้ปัญหาเท่ากับ 25.92 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 81 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ ร้อยละ 60 และสูงกว่านักเรียนกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยการประยุกต์ความรู้ชีววิทยาเท่ากับ 14.74 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 70.19 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ 70 และสูงกว่านักเรียนกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05-
dc.description.abstractalternativeThis study was a quasi-experimental research. The purposes of this study were to 1) study the problem solving ability of students who learned through the case-based learning, 2) compare problem solving ability of the students between the students with case-based learning and students receiving with a conventional instruction method. 3) determine the ability of applying biological knowledge in students who learned through the case-based learning, and 4) compare the ability of applying biological knowledge between the students with case-based learning and students receiving with a conventional instruction method. The sample were two groups of students at Mathayom 4 level in Mathematics-Science program in a large-sized school under Office of the Basic Education Commission of Thailand during the first semester of the academic year 2016. One class with 50 students was sampled as an experimental group, learning Biology by using case-based learning, and another class with 50 students was sampled as a control group, learning Biology by conventional instruction. The research instruments were the problem solving ability test with reliability at 0.62, the biology knowledge application test with reliability at 0.63. The collected data was analyzed by arithmetic mean, mean of percentage, standard deviation and t-test The research findings were summarized as follows : 1) The experimental group’s mean score of the problem solving ability test was 25.92 points, equivalent to 81% which was higher than the standard criterion score of 60%. The scores of problem solving ability test was significantly higher in the students with the case-based learning than those the control group. (p<0.05) 2) The experimental group’s mean score of the ability of applying biological knowledge test was 14.74 points, corresponding to 70.19%. The percentage was higher than the standard criterion score of 70%.The scores of the biology knowledge application test was significantly higher in the students with the case-based learning than those the control group (p<0.05)-
dc.language.isoth-
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.relation.urihttp://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2016.267-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.titleผลของการเรียนรู้โดยใช้กรณีตัวอย่างเป็นฐานที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาและการประยุกต์ความรู้ชีววิทยาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย-
dc.title.alternativeEFFECTS OF USING CASE-BASED LEARNING ON ABILITY IN PROBLEM SOLVING AND BIOLOGY KNOWLEDGE APPLICATIONOF HIGHER SECONDARY SCHOOL STUDENTS-
dc.typeThesis-
dc.degree.nameครุศาสตรมหาบัณฑิต-
dc.degree.levelปริญญาโท-
dc.degree.disciplineการศึกษาวิทยาศาสตร์-
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.email.advisorPornthep.Ch@chula.ac.th,pornthep.ch@chula.ac.th-
dc.email.advisorSittiporn.P@chula.ac.th-
dc.identifier.DOI10.58837/CHULA.THE.2016.267-
Appears in Collections:Edu - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
5783456227.pdf4.53 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.