Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/58415
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorทศพร ยิ้มลมัย-
dc.contributor.authorครรชิต มุละสีวะ-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา-
dc.date.accessioned2018-04-11T01:41:26Z-
dc.date.available2018-04-11T01:41:26Z-
dc.date.issued2560-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/58415-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2560-
dc.description.abstractวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลของการฝึกพลังอดทนที่มีเวลาพักระหว่างครั้งแตกต่างกันที่มีต่อ ความสามารถสูงสุดของการออกแรงในท่านอนดันในนักกีฬามวยสากลสมัครเล่น วิธีการดำเนินการวิจัย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการครั้งนี้ เป็นนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นเพศชายในระดับมัธยมศึกษา ตอนปลายของโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรีจำนวน 18 คน อายุระหว่าง 15-18 ปี ซึ่งได้จากการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive sampling) ก่อนทำการทดลอง กลุ่มตัวอย่างจะได้รับการฝึกด้วยแรงต้านที่ความหนัก 60% ของ 1 RM 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อพัฒนาความแข็งแรงและให้คุ้นเคยกับการออกกำลังกายด้วยแรงต้าน หลังจากนั้นทำการแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 3 กลุ่มๆละ 6 คน กลุ่มทดลองที่ 1 (G1) ฝึกโปรแกรมพลังอดทนแบบต่อเนื่อง 20 ครั้ง ที่ระดับความหนัก 30% ของ 1 RM โดยไม่มีเวลาพัก ในท่านอนดัน กลุ่มทดลองที่ 2 (G2) และกลุ่มทดลองที่ 3 (G3) ฝึกโปรแกรมพลังอดทนเหมือนกันแต่มีเวลาพักระหว่างครั้ง 2 วินาที และ 4 วินาที ตามลำดับ กลุ่มทดลองทุกกลุ่มทำการฝึก 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 6 สัปดาห์ ก่อนและหลังการฝึก 6 สัปดาห์ ทำการวัดตัวแปรตามได้แก่ ความเร็วเฉลี่ยของบาร์ แรงเฉลี่ย และพลังอดทนในท่านอนดัน นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว และใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วม ถ้าพบความแตกต่างจึงเปรียบเทียบเป็นรายคู่ด้วยวิธีของบอนเฟอโรนี่ และวิเคราะห์ผลการทดสอบก่อนและหลังการทดลองโดยใช้การทดสอบค่าที ผลการวิจัย ก่อนการทดลอง กลุ่มทดลองทั้ง 3 กลุ่มมี อายุ น้ำหนัก ดัชนีมวลกาย และความแข็งแรงสัมพัทธ์ ในท่านอนดันไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และไม่พบความแตกต่างของความเร็วเฉลี่ยของบาร์ที่ระดับความหนัก 15%, 30% และ 40% ของ 1 RM ระหว่างทั้งสามกลุ่ม อย่างไรก็ตามกลุ่ม G3 มีค่าพลังอดทนที่ระดับความหนัก 30% ของ 1 RM สูงกว่ากลุ่ม G2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ค่าแรงเฉลี่ย และพลังอดทนที่ระดับความหนัก 30% และ 40% ของ 1 RM ในแต่ละกลุ่มทดลอง มีค่ามากกว่า ที่ระดับความหนัก 15% ของ 1 RM อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และหลังการทดลอง 6 สัปดาห์ ความเร็วเฉลี่ยของบาร์, แรงเฉลี่ย และพลังอดทนที่ระดับความหนัก 15% และ 30% ของ 1RM มีค่าเพิ่มขึ้นจากก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในทุกกลุ่มทดลอง โดยเฉพาะในกลุ่ม G1 และ G2 มีเปอร์เซ็นต์การพัฒนาที่มีแนวโน้มดีกว่าในกลุ่ม G3 สรุปผลการวิจัย การฝึกพลังอดทนที่ระดับความหนัก 30% ของ 1RM ในท่านอนดันแบบต่อเนื่อง และแบบมีเวลาพักระหว่างครั้ง 2 วินาที มีการพัฒนาความเร็วเฉลี่ยของบาร์, แรงเฉลี่ย และ พลังอดทนดีกว่าแบบมีเวลาพักระหว่างครั้ง 4 วินาที ผลการทดลองนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการฝึกพลังอดทนของนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นระดับเยาวชนได้-
dc.description.abstractalternativeThe purpose of this study was to compare effects of different inter-repetition rest periods of power-endurance training on bench press throw in amateur boxers.Eighteen male amateur boxers, age between 15-18 years old, from Suphanburi Sport School participated in this study. Before the experiment, all subjects underwent a resistance training program at a load of 60% 1RM, twice a week for two weeks for familialization. Thereafter, the participants were randomly assigned into three experimental groups matched by 1RM bench press. The first group (G1) performed a power-endurance program consisted of 20 repetitions at a load of 30% 1RM with continuous repetitions. The second (G2) and third (G3) group performed an identical training program but with 2 and 4 seconds inter-repettions rest periods, respectively. Each group continued to train twice a week for a total of 6 weeks. Average barbell velocity, force production, and power-endurance during a bench press throw were measured before and after 6 weeks of training. Data were expressed as means ± S.D. and were analyzed using One-way ANOVA analysis for physical characteristic and One-way ANCOVA for barbell velocity, force, and power-endurance followed by Bonferroni post- hoc test. The statistical significant was set at p-value < .05 Results:There were no significant differences in age, body weight, body mass index, and relative bench press strength among three groups. However, a significant higher (P< .05) power-endurance was observed at a load of 30% 1RM in G3 than that in G2. No differences in average barbell velocity were observed at 15%, 30% and 40% 1RM among three group. Nevertheless, average force and power-endurance were higher (p< .05) at loads of 30% and 40% 1RM compared with 15% 1RM in each group. After 6 weeks of training, Average barbell velocity, average force and power-endurance were significantly improved (p< .05) at loads of 15% and 30% 1RM, but not 40% 1RM, in all three groups, with a greater of magnitude observed in G1 and G2. Conclusion: Our results demonstrated that power-endurance training with a continuous and 2 second inter-repettions have favorable effects on average barbell velocity, average force, and power-endurance during a bench press throw and could therefore be used as an adjunctive exercise program for improving power-endurance in young amateur boxers.-
dc.language.isoth-
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.relation.urihttp://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2017.1214-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.subjectนักมวย-
dc.subjectมวย -- การฝึก-
dc.subjectBoxers (Sports)-
dc.subjectBoxing -- Training-
dc.titleผลของการฝึกพลังอดทนที่มีเวลาพักระหว่างครั้งแตกต่างกันที่มีต่อความสามารถสูงสุดของการออกแรงในท่านอนดันในนักกีฬามวยสากลสมัครเล่น-
dc.title.alternativeEffect of different inter-repetition rest periods of power-endurance training on bench press throw in amateur boxers-
dc.typeThesis-
dc.degree.nameวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต-
dc.degree.levelปริญญาโท-
dc.degree.disciplineวิทยาศาสตร์การกีฬา-
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.email.advisorTossaporn.Y@chula.ac.th,Tossaporn.Y@chula.ac.th-
dc.identifier.DOI10.58837/CHULA.THE.2017.1214-
Appears in Collections:Spt - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
5878340439.pdf5.63 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.