Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/61282
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง | - |
dc.contributor.advisor | ภัทราภรณ์ กินร | - |
dc.contributor.author | นพดล โสภณวรกิจ | - |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะแพทยศาสตร์ | - |
dc.date.accessioned | 2019-02-26T13:22:43Z | - |
dc.date.available | 2019-02-26T13:22:43Z | - |
dc.date.issued | 2561 | - |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/61282 | - |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2561 | - |
dc.description.abstract | จากปัญหาอัตราการกลับไปเสพสารเสพติดซ้ำของผู้เข้ารับการบำบัดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยสาเหตุหนึ่งเกิดจากการขาดการรับรู้ถึงความสามารถของตน ซึ่งการพัฒนาการตระหนักรู้ในตนเองเป็นอีกหนทางหนึ่งในการส่งเสริมการรับรู้ถึงความสามารถของตนอย่างเหมาะสม การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการฝึกการตระหนักรู้ในตนเองของผู้ป่วยมีความผิดปกติของการใช้สารกลุ่มแอมเฟตามีน โดยเป็นการศึกษาเชิงกึ่งทดลอง แบบศึกษากลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลัง เก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ป่วยที่เข้ารับการบำบัดที่แผนกผู้ป่วยในของสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี จำนวน 40 คน ซึ่งเข้าร่วมโปรแกรมการฝึก 4 หัวข้อ ได้แก่ 1) การสังเกตและรับรู้ในตนเอง, 2) การฝึกปล่อยวางอารมณ์ รู้ทันความคิด, 3) การตระหนักรู้ในชีวิตประจำวัน และ 4) การวางแผนการดำเนินชีวิตในระยะยาวผ่านการมองหาคุณค่าของบุคคลรอบข้าง รวม 4 ครั้ง ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสอบถามข้อมูลพื้นฐานและข้อมูลส่วนตัว 2) แบบวัดการรับรู้ของสติใน 5 ด้าน 3) แบบประเมินความเครียด กรมสุขภาพจิต ใช้สถิติเชิงพรรณนาในการอธิบายลักษณะทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง วิเคราะห์เปรียบเทียบผลก่อนและหลังการเข้าร่วมโปรแกรมด้วยสถิติ pair t-test และวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ด้วยค่าสหสัมพันธ์แบบ Pearson จากผลการศึกษาพบว่าหลังจากเข้าร่วมโปรแกรมการรับรู้สติทั้งในภาพรวมและจำแนกตามองค์ประกอบ 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการสังเกต ด้านการบรรยายเป็นคำพูด ด้านการรับรู้อิริยาบถ ด้านการไม่ตัดสิน ด้านการไม่ตอบสนองต่อความรู้สึกมีค่าคะแนนสูงขึ้น ในขณะที่ค่าคะแนนความเครียดลดลง โดยมีค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 คือ 0.001*, 0.113, 0.035*, 0.037*, 0.281, 0.049* และ 0.008* ตามลำดับ และไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะประชากรและผลต่างของค่าคะแนนก่อน-หลังเข้าร่วมโปรแกรม ผลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าโปรแกรมการฝึกมีประสิทธิภาพในการเพิ่มระดับการตระหนักรู้ในตนเองของผู้เข้าร่วม อีกทั้งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในผู้ป่วยทั้งที่เคยและไม่เคยมีประสบการณ์การฝึกเจริญสติได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ในการช่วยลดปัญหาการกลับมาเสพสารเสพติดซ้ำในผู้เข้ารับการบำบัดรักษาในอนาคต | - |
dc.description.abstractalternative | The substance-abuse relapse rate is likely to increase every year. One of the reasons is the lack of self-efficacy that can improved by self-awareness training. The purpose of this one group pretest-posttest design quasi experimental research study was to investigate the effect of self-awareness training program on 40 patients with amphetamine use disorder who treated at the PMNIDAT. The program including 2 weeks, consists of 4 sessions: 1) Observing the body’s reaction 2) Emotional & Thinking training 3) Awareness in daily life and 4) Long-term lifestyle planning through looking for and appreciate the value of everyone. Using the FFMQ-SF and the ST-5 questionnaire to measure self-awareness in term of mindfulness and stress. Data were analyzed by using descriptive statistic, pair t-test and Pearson’s correlation. Participants shows a higher mindfulness score both the overall and each 5 compound factors including observing, describing, acting with awareness, non-judging of inner experience and non-reactivity to inner experience while the stress score is reduced. The statistical significance at 0.05 was 0.001*, 0.113, 0.035*, 0.037*, 0.281, 0.049* and 0.008* respectively. In addition, the Pearson correlation coefficient was not correlated with the demographic profile and the difference in before-after the program scores. The program can improve self-awareness and relieve stress for patients with amphetamine use disorder. They were shown as the increased FFMQ-SF score and the decreases ST-5 score. And this program can be applied to patients in all groups, have experienced the practice and have never experienced the practice of mindfulness. | - |
dc.language.iso | th | - |
dc.publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | - |
dc.relation.uri | http://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2018.1425 | - |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | - |
dc.subject | ความครุ่นคิดเกี่ยวกับตนเอง | - |
dc.subject | คนติดยาเสพติด -- การฝึกอบรม | - |
dc.subject | ความเครียด (จิตวิทยา) | - |
dc.subject | Self-consciousness (Awareness) | - |
dc.subject | Drug addicts -- Training | - |
dc.subject | Stress (Psychology) | - |
dc.subject | Mindfulness-based cognitive therapy | - |
dc.subject.classification | Psychology | - |
dc.title | ผลของโปรแกรมการฝึกการตระหนักรู้ในตนเองต่อระดับการรับรู้สติ 5 ด้านและความเครียดของผู้ป่วยมีความผิดปกติของการใช้สารกลุ่มแอมเฟตามีนที่เข้ารับการรักษาในสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี | - |
dc.title.alternative | Effect of self-awareness training program on 5 factors of mindfulness and stress to patients with amphetamine use disorder in the Princess Mother National Institute on Drug Abuse Treatment | - |
dc.type | Thesis | - |
dc.degree.name | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต | - |
dc.degree.level | ปริญญาโท | - |
dc.degree.discipline | สุขภาพจิต | - |
dc.degree.grantor | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | - |
dc.email.advisor | Atapol.S@Chula.ac.th | - |
dc.email.advisor | ไม่มีข้อมูล | - |
dc.subject.keyword | โปรแกรมการฝึกการตระหนักรู้ในตนเอง | - |
dc.subject.keyword | ระดับการรับรู้สติ | - |
dc.subject.keyword | ความเครียด | - |
dc.subject.keyword | ความผิดปกติของการใช้สารกลุ่มแอมเฟตามีน | - |
dc.subject.keyword | Self-awareness training program | - |
dc.subject.keyword | Mindfulness | - |
dc.subject.keyword | Stress | - |
dc.subject.keyword | Amphetamine use disorder | - |
dc.identifier.DOI | 10.58837/CHULA.THE.2018.1425 | - |
Appears in Collections: | Med - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
5974256830.pdf | 10.96 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.