Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/68350
Title: | Pre-feasibility study of the northern refined products pipeline project |
Other Titles: | การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการวางท่อส่งน้ำมันภาคเหนือ |
Authors: | Thunyarat Attaprecha |
Advisors: | Jirdsak Tscheikuna Wicha Chuichum |
Other author: | Chulalongkorn University. Faculty of Engineering |
Subjects: | Feasibility studies Petroleum -- Transportation Oil transfer operation Cost effectiveness |
Issue Date: | 1999 |
Publisher: | Chulalongkorn University |
Abstract: | Pre-feasibility study of the Northern Petroleum products pipeline project is conducted on marketing, technical, and economic issues. Technical analysis is focused on the study to find suitable provinces for construction pipeline and oil depots, and the calculation of the size of the depots. The pipeline will be installed from the Pipeline System of Thappline in Saraburi province along the High-voltage transmission lines of the Electricity Generating Authority of Thailand (EGAT). Net present valve (NPV), internal rate of return (IRR), benefits/costs ratio (B/C ratio), and payback period are used as the criteria for the economic analysis. The result shows that the suitable location for construction of oil depots are Nakhon Sawan, Pittsanulok and Lampang with the storage capacity of 18, 15 and 23 million-litres, respectively. The Northern pipeline has an overall length of 510 km from Saraburi to Lampang. After the installation is completed, the annual petroleum products transferred are 2,962 million-litres. This pipeline is divided into three sections. The first section, from Saraburi to Nakhon Sawan, will be 170 km having pipe diameter of 14 inch. The second section, from Nakhon Sawan to Pittsanulok, 12 inch-diameter pipeline will be installed with the length of 130 km. And the 10 inch-diameter pipeline will be installed along the last 210-kilometer-long route between Pittsanulok and Lampang terminal oil depot. Economic study shows that initial cost of this project is 5,429 million-Baht. Operating cost is estimated to be 21.88 satang/litre. Economic analysis shows that the pipeline project will yield IRR of 12.94%, NPV of 2,088 million baht, payback period of 9.83 years, and B/C ratio of 1.26. The initial cost of tjis project is found to be the most critical factors on economic analysis. In summary, pipeline project is viable and can efficiently compete with the existing oil transportation modes. |
Other Abstract: | การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการวางท่อส่งน้ำามันภาคเหนือ เป็นการศึกษาความเป็นไปได้ทางด้านเทคนิค เศรษฐศาสตร์ รวมทั้งการศึกษาทางการตลาด ซึ่งการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้แบ่งออกเป็นการศึกษาหาสถานที่ในการวางท่อและตั้ง คลังน้ำมันที่เหมาะสม รวมถึงการคํานวณหาขนาดของคลัง โดยลักษณะของโครงการเป็นการวางท่อขนส่งน้ำมัน ต่อจากระบบท่อศรี ราชา-สระบุรี ของบริษัทท่อส่งปิโตรเลียมไทย บริเวณจ.สระบุรี ไปตามแนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประทศไทย ตลอดแนวโครงการ โดยเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์สถานที่ก่อสร้างคลังคือ หลักค่าใช้จ่ายต่ำสุด สำหรับเกณฑ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ ทางเศรษฐศาสตร์คือ มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV), อัตราผลตอบแทนโครงการ (IRR), อัตราผลประโยชน์ต่อค่าใช้จ่าย (BIC Ratio) และระยะคืนทุน (Payback Period) จากการศึกษาพบว่าสถานที่ที่เหมาะสมในการก่อสร้างคลังน้ำามันมีอยู่ 3 จังหวัด คือ นครสวรรค์ พิษณุโลก และ ลําปาง ขนาดความจุคลังน้ำมัน 18, 15 และ 23 ล้านลิตร ตามลำดับ ความยาวของท่อทั้งหมด 510 กม. มีความสามารถในการส่ง น้ำมันสูงสุด 2,962 ล้านลิตรต่อปี โดยท่อแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ จากสระบุรีไปนครสวรรค์ยาว 170 กม. เป็นท่อขนาดเส้นผ่าศูนย์ กลาง 14 นิ้ว จากนครสวรรค์ไปพิษณุโลกยาว 130 กม. เป็นท่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 นิ้ว และจากพิษณุโลกไปลําปางยาว 210 กม. ขนาด 10 นิ้ว ในส่วนของการวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์นั้น เงินลงทุนของโครงการเท่ากับ 5,429 ล้านบาท จากผลการวิเคราะห์พบ ว่า ต้นทุนของค่าขนส่งของท่อเท่ากับ 21.88 สตางค์ต่อลิตร ในส่วนของการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการลงทุน ปรากฏว่าโครงการ ให้ผลตอบแทนการลงทุน (IRR) 12.94% มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) เท่ากับ 2,088 ล้านบาท, ระยะเวลาคืนทุน 9.83 ปี และ อัตรา ผลประโยชน์ต่อค่าใช้จ่ายเท่ากับ 1.26 เท่า อย่างไรก็ตามในการวิเคราะห์ความอ่อนไหวของโครงการ พบว่าปัจจัยที่มีผลกระทบทาง ลบต่อโครงการมากที่สุดคือ เงินลงทุน จึงสรุปได้ว่าโครงการนี้มีความเป็นไปได้ในการลงทุน และโครงการท่อส่งน้ำมันนี้สามารถแข่ง ขันกับการขนส่งน้ำมันในรูปแบบเดิมในขณะนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
Description: | Thesis (M.Eng.)--Chulalongkorn University, 1999 |
Degree Name: | Master of Engineering |
Degree Level: | Master's Degree |
Degree Discipline: | Engineering Management |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/68350 |
ISSN: | 9743335293 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Eng - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Thunyarat_at_front_p.pdf | หน้าปก บทคัดย่อ และสารบัญ | 959.39 kB | Adobe PDF | View/Open |
Thunyarat_at_ch1_p.pdf | บทที่ 1 | 850.22 kB | Adobe PDF | View/Open |
Thunyarat_at_ch2_p.pdf | บทที่ 2 | 882.85 kB | Adobe PDF | View/Open |
Thunyarat_at_ch3_p.pdf | บทที่ 3 | 2.19 MB | Adobe PDF | View/Open |
Thunyarat_at_ch4_p.pdf | บทที่ 4 | 2.23 MB | Adobe PDF | View/Open |
Thunyarat_at_ch5_p.pdf | บทที่ 5 | 1.33 MB | Adobe PDF | View/Open |
Thunyarat_at_ch6_p.pdf | บทที่ 6 | 756.54 kB | Adobe PDF | View/Open |
Thunyarat_at_back_p.pdf | บรรณานุกรม และภาคผนวก | 3.44 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.