ผลของเวลาพอลิเมอไรเซชันและขนาดอนุภาคซิงก์ออกไซด์ต่อการตอบสนองโดยการเปลี่ยนสีของวัสดุเชิงประกอบระดับนาโนเมตรของพอลิไดแอเซทิลีนเวสิเคิล/ซิงก์ออกไซด์

Abstract

งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการปรับปรุงสมบัติของวัสดุเชิงประกอบระดับนาโนเมตรพอลิไดแอเซทิลีนเวสิเคิล/ซิงก์ออกไซด์โดยศึกษาปัจจัยของระยะเวลาพอลิเมอไรเซชัน และขนาดอนุภาคของซิงก์ออกไซด์ที่มีต่อสมบัติการเปลี่ยนสี โดยเลือกใช้ 10,12-เพนตะโคซะไดอายน์โนอิกแอซิดเป็นมอนอเมอร์ตั้งต้นในการเตรียมวัสดุเชิงประกอบ และทำการศึกษาผลของระยะเวลาพอลิเมอไรเซชันโดยการฉายรังสียูวี เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 10 วินาทีถึง 120 นาที ผลการวิเคราะห์การเปลี่ยนสีของวัสดุเชิงประกอบเมื่อได้รับการกระตุ้นจากอุณหภูมิ พบว่า การเพิ่มเวลาพอลิเมอไรเซชัน จะส่งผลให้สารแขวนลอยวัสดุเชิงประกอบเกิดการตอบสนองโดยการเปลี่ยนสีที่อุณหภูมิต่ำลง นอกจากนั้น วัสดุเชิงประกอบที่ผ่านการฉายรังสียูวีเป็นเวลาน้อยกว่า 60 นาที ยังแสดงการเปลี่ยนสีแบบผันกลับได้อย่างสมบูรณ์ จากนั้นการผันกลับได้จะเกิดน้อยลงในวัสดุเชิงประกอบที่ผ่านการฉายรังสียูวีเป็นเวลา 60 นาทีขึ้นไป โดยพฤติกรรมการตอบสนองต่ออุณหภูมิในรูปแบบดังกล่าวเกิดขึ้นในฟิล์มบางวัสดุเชิงประกอบด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับการศึกษาการเปลี่ยนสีเมื่อได้รับการกระตุ้นจากความเป็นกรด-เบส จะพบว่าวัสดุเชิงประกอบที่ผ่านการฉายรังสียูวีเป็นเวลา 10 วินาทีถึง 5 นาที มีความไวต่อความเป็นกรดค่อนข้างมากและเกิดการเปลี่ยนสีที่รุนแรงกว่า เมื่อเทียบกับวัสดุเชิงประกอบที่ฉายรังสียูวีตั้งแต่ 30 นาทีเป็นต้นไป ในขณะที่เมื่อเพิ่มความเป็นเบส การเปลี่ยนสีของวัสดุเชิงประกอบทุกตัวอย่างจะเกิดขึ้นที่พีเอชสูงถึง 13.28 และมีการเปลี่ยนสีไปจากเดิมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อศึกษาการตอบสนองต่อตัวทำละลายพบว่า การเติมตัวทำละลายทั้ง 3 ชนิดได้แก่ โพรพานอล, เตตระไฮโดรฟูแรนและคลอโรฟอร์ม ไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนสีของวัสดุเชิงประกอบ สำหรับการศึกษาผลของขนาดอนุภาคซิงก์ออกไซด์ พบว่าวัสดุเชิงประกอบที่เตรียมโดยใช้อนุภาคซิงก์ออกไซด์ขนาด 65.31, 174.56และ 224.54 นาโนเมตร แสดงพฤติกรรมการเปลี่ยนสีที่ใกล้เคียงกัน โดยจะเกิดการเปลี่ยนสีจากน้ำเงินเป็นม่วงที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส