Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/9532
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | พร้อมพรรณ อุดมสิน | - |
dc.contributor.author | ไพโรจน์ เบขุนทด | - |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะครุศาสตร์ | - |
dc.date.accessioned | 2009-08-03T09:56:27Z | - |
dc.date.available | 2009-08-03T09:56:27Z | - |
dc.date.issued | 2544 | - |
dc.identifier.isbn | 9740310605 | - |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/9532 | - |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2544 | en |
dc.description.abstract | การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่เรียน แบบร่วมมือแบบกลุ่มเกมการแข่งขัน แบบกลุ่มช่วยรายบุคคล และแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ 2. เพื่อศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างวิธีเรียนแบบร่วมมือกับระดับความสามารถทาง คณิตศาสตร์ของนักเรียนที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ 3. เพื่อเปรียบเทียบความร่วมมือในการทำงานกลุ่มของนักเรียนที่เรียนแบบร่วมมือ แบบกลุ่มเกมการแข่งขัน แบบกลุ่มช่วยรายบุคคล และแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ ตัวอย่างประชากรเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนจระเข้วิทยายน จังหวัดขอนแก่น ปีการศึกษา 2544 จำนวน 120 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 3 กลุ่ม ๆ ละ 40 คน คือกลุ่มที่ 1 เรียนโดยวิธีการเรียนแบบร่วมมือแบบกลุ่มเกมการแข่งขัน กลุ่มที่ 2 เรียนโดยวิธีการเรียนแบบร่วมมือแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล และกลุ่มที่ 3 เรียนโดยวิธีการเรียนแบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา คณิตศาสตร์และแบบประเมินความร่วมมือในการทำงานกลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวและการวิเคราะห์ความแปร ปรวนสองทาง ผลการวิจัยพบว่า : 1. นักเรียนที่เรียนแบบร่วมมือแบบกลุ่มช่วยรายบุคคลมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ สูงกว่านักเรียนที่เรียนแบบกลุ่มเกมการแข่งขัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 นักเรียนที่เรียนแบบร่วมมือแบบกลุ่มช่วยรายบุคคลมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ไม่แตกต่างกับนักเรียนที่เรียนแบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผล สัมฤทธิ์ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 และนักเรียนที่เรียนแบบร่วมมือแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์มีผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนวิชาคณิตศาสตร์ไม่แตกต่างกับนักเรียนที่เรียนแบบร่วมมือแบบกลุ่มเกมการ แข่งขันที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 2. ไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างวิธีเรียน กับระดับความสามารถทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 3. นักเรียนที่เรียนแบบร่วมมือแบบกลุ่มเกมการแข่งขัน แบบกลุ่มช่วยรายบุคคล และแบบแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์มีความร่วมมือในการทำงานกลุ่มไม่แตกต่างกันที่ ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 | en |
dc.description.abstractalternative | The purposes of this study were : 1. to compare mathematics learning achievement of studied through three types of cooperative learning: Team-Games Tournaments (TGT), Team Assisted Individualization (TAI) and Student Teams-Achievement Division (STAD). 2. to study interaction between types of learning and mathematics learning levels of students on mathematics learning achievement. 3. to compare cooperative group working of studied through three types of cooperative learning: TGT, TAI and STAD. Subjects were 120 mathayom suksa two students of Jorake Wittayayom School at Khonkaen province in acadamic year 2001. They were divided into three groups, 40 of each. The first group learned throuth TGT. The second group learned through TAI and the third group learned through STAD. The research instruments were mathematics learning achievement test and evaluation form in cooperative group working. The data were analyzed by means of one-way ANOVA and two-way ANOVA. The result of the study showed that: 1. the students studied through TAI showed higher mathematics learning achievement than those studied through TGT at 0.05 level of significance. There was no difference in mathematics learning achievement of students learning through TAI and those learning through STAD and no difference in mathematics learning achievement of students learning through STAD and those learning through TGT at 0.05 level of significance. 2. there was no interaction effect between types of levels of mathematics achievement on mathematics learning achievement at 0.05 level of significance. 3. There was no difference in cooperative group working of students studied through TGT, TAI and STAD at 0.05 level of significance. | en |
dc.format.extent | 1237705 bytes | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.language.iso | th | es |
dc.publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en |
dc.relation.uri | http://doi.org/10.14457/CU.the.2001.616 | - |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en |
dc.subject | ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน | en |
dc.subject | คณิตศาสตร์ -- การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา) | en |
dc.subject | การทำงานกลุ่มในการศึกษา | en |
dc.title | ผลของการเรียนแบบร่วมมือ 3 วิธีที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์และความร่วมมือในการทำ งานกลุ่มของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 | en |
dc.title.alternative | Effects of three types of cooperative learning on mathematics learning achievement and cooperative group working of mathayom suksa two students | en |
dc.type | Thesis | es |
dc.degree.name | ครุศาสตรมหาบัณฑิต | es |
dc.degree.level | ปริญญาโท | es |
dc.degree.discipline | การศึกษาคณิตศาสตร์ | es |
dc.degree.grantor | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en |
dc.email.advisor | Prompan.U@chula.ac.th | - |
dc.identifier.DOI | 10.14457/CU.the.2001.616 | - |
Appears in Collections: | Edu - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Phairote.pdf | 1.21 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.