Abstract:
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์ปริมาณการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา แล้วจึงนำเสนอทางเลือกการลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อนำไปคาดการณ์ผลของการดำเนินการใช้มาตรการลดการใช้พลังงานในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นเมืองคาร์บอนต่ำ จากผลการศึกษาพบว่าปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในเขตเทศบาลฯ ในปี พ.ศ. 2560 เท่ากับ 484,799.68 tCO2eq และคิดเป็นปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อคน เท่ากับ 3.74 tCO2eq ต่อคนต่อปี นอกจากนี้กลุ่มกิจกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดคือกลุ่มการเผาไหม้อยู่กับที่ มีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับ 266,786.63 tCO2eq (55.03%) รองลงมาคือกลุ่มขนส่ง มีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับ 134,905.19 tCO2eq (27.83%) จากผลการคาดการณ์ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี พ.ศ. 2573 พบว่ามีค่าเท่ากับ 750,086.14 tCO2eq โดยกลุ่มการเผาไหม้อยู่กับที่ และกลุ่มขนส่งยังคงเป็นกลุ่มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกลุ่มหลัก ดังนั้นแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพคือมาตรการอนุรักษ์พลังงานและมาตรการด้านการขนส่ง เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในเขตเทศบาลฯ ได้แก่ การส่งเสริมการติดตั้งโซล่าเซลล์ ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (LED) และมีการพัฒนาระบบรถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail Transit : LRT) จะส่งผลให้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 12.89 ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดในปี พ.ศ. 2573 หรือหากเทศบาลฯ มีการพัฒนาระบบรถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle Bus) แทนระบบรถไฟฟ้ารางเบา จะส่งผลให้ มีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงร้อยละ 14.68 หรือมีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับ 631,349.58 tCO2eq ในปี พ.ศ. 2573