Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/18541
| Title: | การใช้หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย ฉบับพุทธศักราช 2518 ในเขตการศึกษา 10 |
| Other Titles: | Implementation of 2518 B.E. upper secondary school curriculum in educational region 10 |
| Authors: | ธิรางค์ เงินศรี |
| Advisors: | สุมิตร คุณานุกร |
| Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย |
| Subjects: | การศึกษาขั้นมัธยม -- หลักสูตร |
| Issue Date: | 2519 |
| Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
| Abstract: | วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อสำรวจปัญหาปัจจุบันในการใช้หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย ฉบับพุทธศักราช 2518 ในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในเขตการศึกษา 10 วิธีดำเนินการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ แบบสอบถามสำหรับบุคลากรที่มีส่วนในการใช้หลักสูตรดังกล่าว ประกอบด้วยผู้บริหารโรงเรียน หัวหน้าสายวิชา อาจารย์ผู้สอน และเจ้าหน้าที่ต่างๆในโรงเรียนซึ่งได้แก่ เจ้าหน้าที่แนะแนว เจ้าหน้าที่ทะเบียน เจ้าหน้าที่วัดผลการศึกษา และเจ้าหน้าที่ห้องสมุด บุคลากรเหล่านี้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในโรงเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการในเขตการศึกษา 10 จำนวน 10 โรงเรียน ยกเว้นโรงเรียนมัธยมแบบประสม ได้รับแบบสอบถามคืนจากผู้ตอบจำนวน 269 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 97.63 ของแบบสอบถามที่ส่งไปทั้งหมด แบบสอบถามดังกล่าวมี 14 ชุด แต่ละชุดประกอบด้วยแบบตรวจสอบ และมาตราส่วนประมาณค่า การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สัดส่วน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (X) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลของการวิจัย ข้อมูลจากการศึกษาครั้งนี้ สรุปได้ว่าการประกาศใช้หลักสูตรใหม่อย่างกะทันหันทำให้เกิดปัญหามากมาย เป็นปัญหาในด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้คือ ในด้านบริหารหลักสูตร ผู้บริหารประสบปัญหาในเรื่องการขาดแคลนหลายๆด้าน ซึ่งได้แก่ จำนวนบุคลากรที่รับผิดชอบงานในด้านต่างๆ การจัดโปรแกรมการเรียนให้สอดคล้องกับสภาพของท้องถิ่น และปัญหาในการกำหนดนโยบาย และการประสานงานร่วมกันภายในกลุ่มโรงเรียน ในด้านการสอน (1) มีปัญหามากเกี่ยวกับการขาดแคลนหนังสือแบบเรียน หนังสืออ่านประกอบ อุปกรณ์การสอน ปัญหาความไม่เพียงพอของงบประมาณโดยเฉพาะในภาควิชาที่ต้องการวัสดุอุปกรณ์ และห้องเรียนพิเศษ (2) ความไม่เพียงพอของเวลาในการสอนให้ครบตามหลักสูตรของครู และในการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองของนักเรียน (3) ในหลายหมวดวิชา ผู้สอนไม่สามารถปรับเนื้อหาให้สอดคล้องกับสภาพท้องถิ่นได้ (4) การขาดความรู้พื้นฐานที่เพียงพอ ก่อให้เกิดปัญหาในการเลือกวิชาในบางหมวดวิชา ปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นมีอยู่หลายหมวดวิชา แม้ว่าจะมีปัญหาคล้ายคลึงกันก็ตาม แต่ละหมวดวิชามีปัญหาเหล่านี้มากน้อยแตกต่างกันออกไป การสำรวจปัญหาครั้งนี้ได้จัดระดับปัญหาให้เห็นเด่นชัดในแต่ละหมวดวิชาด้วย เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 ฝ่ายซึ่งได้แก่ เจ้าหน้าที่แนะแนว ทะเบียน วัดผลการศึกษา และเจ้าหน้าที่ห้องสมุด ประสบปัญหาในระดับสูงคล้ายคลึงกันคือ (1) การขาดแคลนบุคลากรซึ่งจะทำหน้าที่ในแต่ละฝ่ายโดยตรง เนื่องจากต้องรับผิดชอบงานอื่นๆด้วย (2) การขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์และสถานที่ในการดำเนินงาน เจ้าหน้าที่แนะแนวประสบปัญหาที่แตกต่างกันออกไป เกี่ยวกับการให้ความร่วมมือของผู้ปกครอง ส่วนเจ้าหน้าที่ทะเบียนยังไม่เข้าใจการจัดรายวิชาเรียนในระบบหน่วยกิต |
| Other Abstract: | The intent of this study was to survey the problems of 2518 B.E. Upper Secondary School Curriculum implementation in Educational Region 10. Procedures A Questionnaire was administered to the personnel working in 10 schools (Excluding Comprehensive High Schools) under the auspice of the Department of General Education, ministry of Education. They were administrators, head of subject areas, classroom instructors and the four categories of staff, namely, counselors, registrars, evaluators and librarians. The questionnaires were returned from 269 respondents (97.63 percent of all the coppies sent). The questionnaires comprised of 14 sets for different groups of personnel. Each set was devided into two main sections : check list and rating scale. The data were analyzed using proportion, percentage, arithmetic mean, and standard deviation. Findings The data from this study revealed that the abrupt enforcement of this new curriculum brought about a multitude of problems. In the phase of curriculum administration, several problems of insufficiency, namely, instructional program arrangement to suit local conditions and policy-making as well as internal co-ordination among schools within the group was found. As for instruction, numerous problems were categorized according to each subject area wherein priorities were set according to rated frequency. The study indicated that problems originated from the lack of (1) texts; external readings; instructional materials due to insufficient budget, especially for those subject areas where special materials and classrooms were necessary; (2) adequate time for both teachers to cover all the contents in the curriculum and for students to study independently; (3) ability and basic knowledge to adjust subject matter to suit local conditions; (4) inadequate academic background of the students generating the problems of guidance in course selection within somes subject areas. |
| Description: | วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2519 |
| Degree Name: | ครุศาสตรมหาบัณฑิต |
| Degree Level: | ปริญญาโท |
| Degree Discipline: | บริหารการศึกษา |
| URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/18541 |
| Type: | Thesis |
| Appears in Collections: | Grad - Theses |
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| Tirang_Ng_front.pdf | 403.24 kB | Adobe PDF | View/Open | |
| Tirang_Ng_ch1.pdf | 521.79 kB | Adobe PDF | View/Open | |
| Tirang_Ng_ch2.pdf | 812.17 kB | Adobe PDF | View/Open | |
| Tirang_Ng_ch3.pdf | 423.48 kB | Adobe PDF | View/Open | |
| Tirang_Ng_ch4.pdf | 2.02 MB | Adobe PDF | View/Open | |
| Tirang_Ng_ch5.pdf | 618.06 kB | Adobe PDF | View/Open | |
| Tirang_Ng_back.pdf | 1.59 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.