บทบาทของผู้นิเทศการพยาบาลในกรุงเทพมหานคร

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้ตรวจการพยาบาล และพยาบาลหัวหน้าตึกเกี่ยวกับคุณภาพงานของผู้ตรวจการพยาบาล ด้านการให้การพยาบาล ด้านการบริหารและด้านการศึกษา ตลอดจนปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานและเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ตรวจการพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ ตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้มีจำนวน 194 คน เป็นผู้ตรวจการพยาบาล 41 คน พยาบาลหัวหน้าตึก 153 คน โดยใช้แบบสอบถามซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นเองเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล แบบสอบถามได้สอบถามเกี่ยวกับคุณภาพงานที่ผู้ตรวจการพยาบาลปฏิบัติอยู่ ปัญหาที่พบและข้อเสนอแนะในการปรับปรุงงานของผู้ตรวจการพยาบาลและเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ตรวจการพยาบาล ได้ทำการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้ตรวจการพยาบาลกับพยาบาลหัวหน้าตึก โดยวิธีทดสอบความแตกต่างของค่าคะแนนเฉลี่ย คำนวณอัตราส่วนวิฤต และทดสอบสัดส่วนความคิดเห็นโดยการทดสอบไคสแควร์ ปรากฏผลดังนี้ 1. ความคิดเห็นของผู้ตรวจการพยาบาลและหัวหน้าตึกเกี่ยวกับคุณภาพงานของผู้ตรวจการพยาบาล ด้านการพยาบาล การบริหาร และด้านการศึกษา มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งปฏิเสธสมมติฐานข้อที่ 1 ที่ว่าความคิดเห็นของผู้ตรวจการพยาบาลและหัวหน้าตึกในหน่วยงานเกี่ยวกับคุณภาพในการปฏิบัติงานของผู้ตรวจการพยาบาลไม่แตกต่างกัน และเมื่อเปรียบเทียบเป็นรายคู่ ปรากฏว่าผู้ตรวจการพยาบาลมีความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพงานที่ตนปฏิบัติอยู่นั้นอยู่ในเกณฑ์สูงกว่า หัวหน้าตึก ในทุกๆ ด้าน 2. สัดส่วนความคิดเห็นของผู้ตรวจการพยาบาลและหัวหน้าตึกเกี่ยวกับปัญหาที่พบในการนิเทศการพยาบาลนั้น ไม่มีความสัมพันธ์กัน ตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบจึงสนองสมมติฐานข้อที่ 2 ที่ว่า ปัญหาที่พบเกี่ยวกับการนิเทศการพยาบาลนั้น ไม่มีความสัมพันธ์กับตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบ ยกเว้นปัญหาเกี่ยวกับปริมาณงานในความรับผิดชอบของผู้ตรวจการพยาบาล ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งแสดงว่าสัดส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาในการนิเทศการพยาบาลข้อนี้มีความสัมพันธ์กับตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบ จึงปฏิเสธสมมติฐานข้อที่ 2 ที่ว่า ปัญหาที่พบในการนิเทศการพยาบาลนั้นไม่มีความสัมพันธ์กับตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบ 3. สัดส่วนความคิดเห็นของผู้ตรวจการพยาบาล และหัวหน้าตึกเกี่ยวกับข้อเสนอแนะในการปรับปรุงงานของผู้ตรวจการพยาบาลและเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ตรวจการพยาบาลที่มีประสิทธิภาพนั้น ไม่มีความสัมพันธ์กับตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบ คือ ส่วนใหญ่มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน จึงสนองสมมติฐานข้อ 3 ที่ว่า ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงงานของผู้ตรวจการพยาบาลและเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ตรวจการพยาบาลที่มีประสิทธิภาพนั้นไม่มีความสัมพันธ์กับตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบ