Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/27693
Title: | การวิเคราะห์ทางการเงินของโรงแรมชั้นหนึ่งในประเทศไทย โดยเปรียบเทียบโรงแรมที่ลงทุนโดยคนไทย กับโรงแรมที่ชาวต่างชาติร่วมลงทุนด้วย |
Other Titles: | Financial analysis of first class hotels in Thailand : a comparative study between Thai owned hotels and those of joint ventures |
Authors: | อนุวัตร โกศล |
Advisors: | ศิวาวุธ เทพหัสดิน ณ อยุธยา |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย |
Issue Date: | 2523 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | ผลประโยชน์อันเกิดจากการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย สามารถดึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้เป็นจำนวนมาก และก่อให้เกิดรายได้จากเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้น ช่วยส่งเสริมพัฒนาท้องถิ่นและความเจริญก้าวหน้าให้แก่สังคม ส่งเสริมโอกาสด้านการจ้างงานตลอดจนช่วยกระจายรายได้ไปถึงชนทุกระดับชั้น จึงนับได้ว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ธุรกิจโรงแรมเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งต้องได้รับการพัฒนาควบคู่กันไป กล่าวคือ หากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไม่ขยายตัวในปริมาณที่ควรจะเป็นก็จะส่งผลกระทบกระเทือนถึงอุตสาหกรรมโรงแรมเป็นอันมาก ในทำนองเดียวกันถ้าหากอุตสาหกรรมโรงแรมไม่ได้รับการพัฒนาให้สามารถดำเนินธุรกิจบริการแก่นักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็จะต้องได้รับผลกระทบกระเทือนด้วยเช่นกัน วิทยานิพนธ์เล่มนี้เป็นการวิเคราะห์ทางการเงินของโรงแรมชั้นหนึ่งในประเทศไทย เปรียบเทียบโรงแรมที่ลงทุนโดยคนไทย กับโรงแรมที่มีชาวต่างชาติร่วมลงทุนด้วย เพื่อศึกษาถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของอุตสาหกรรมโรงแรม สัดส่วนของการลงทุน สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ ๆ อาทิเช่น อัตราส่วนที่แสดงถึงสภาพคล่อง อัตราส่วนที่แสดงหนี้สิน อัตราส่วนที่แสดงสมรรถภาพในการดำเนินงานและอัตราส่วนที่แสดงถึงสมรรถภาพในการหากำไร อัตราส่วนทางการเงินที่โรงแรมแต่ละแห่งควรรักษาไว้ แหล่งที่มาของรายได้ ลักษณะของรายได้ ประเภทของลูกหนี้ และนโยบายการให้ส่วนลด จากการศึกษาทำให้ทราบว่าโรงแรมชั้นหนึ่งในประเทศไทยมีทั้งหมด 36 แห่ง ประกอบด้วยโรงแรมที่ลงทุนโดยคนไทย 21 แห่ง และโรงแรมที่มีชาวต่างชาติร่วมลงทุนด้วย 16 แห่ง อัตราส่วนทางการเงินของโรงแรมส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นเกือบทุกปี ยกเว้นในปี 2521 และโรงแรมที่มีชาวต่างชาติร่วมลงทุนด้วยส่วนใหญ่มีอัตราส่วนทางการเงินอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าโรงแรมที่ลงทุนโดยคนไทย แต่แหล่งที่มาของรายได้ ลักษณะของรายได้ ประเภทของลูกหนี้ การให้ส่วนลด มีลักษณะไม่แตกต่างกัน ณ ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นโรงแรมที่ลงทุนโดยคนไทย ควรพยายามเพิ่มอัตราส่วนทางการเงินให้มีแนวโน้มดีขึ้นใกล้เคียงกับโรงแรมที่มีชาวต่างชาติร่วมลงทุนด้วย อาทิเช่น จัดส่งพนักงานไปฝึกอบรมเทคนิคการบริหารโรงแรมในด้านต่าง ๆ ยังโรงแรมที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือจัดบุคคลผู้มีประสบการณ์ความรู้ ความสามารถในแต่ละด้านมาช่วยฝึกฝนอบรมพนักงาน หรือจัดให้มีโรงเรียนสอนวิธีการให้บริการในธุรกิจโรงแรมที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น เพราะในปัจจุบันยังขาดบุคคลที่มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน สิ่งที่เป็นเหตุจูงใจส่วนหนึ่งที่ลูกค้ามาใช้บริการโรงแรมขึ้นอยู่กับการบริหารที่ดีด้วย |
Other Abstract: | The advantages arise in developing tourist industry in Thailand promote large number of tourists and foreign exchange inflow. It also leads to greater social and economic development locally and as a result increase employment as well as national economic development was achieved. The hotel business has play a major role in the development of tourist industry in the country and needs to be developed parallelly. This, thesis is written for the purpose of analyzing financial aspects of first-class hotels in Thailand by comparing locally owned hotels and those of foreign joint ventures. The analysis includes the history of tourist industry in Thailand, ratio of investment, the reasons behind the changes of the important financial ratios, liquidity ratio, leverage ratios, activities ratios, profitability ratios, Income areas, types of debtors, and discount policy. Summary of the study shows that there are 36 first-class hotels in Thailand which 20 hotels were locally owned and 16 hotels were foreign joint investment. The earnings of hotels has steadily been climbing upward except in 1978 and income derives from hotels with foreign joint ventures have been better than those of locally owned. Other aspects such as profit areas, types of debtors, discount policy have been 95 percentage wise similar in all hotels. In conclusion, the locally owned hotels should try to boost up their financial ratio in order to compete with hotels which are foreign joint ventures as follows: - Educate better technique in hotel management to employees both domestically and abroad, conduct seminars under expects with profound knowledge and past experiences in hotel and set up additional schools to train hotel education to more Thai. The foregoing points will help the hotel industry in Thailand and at present we still need Thai citizen who would render understanding, courtesy and help through smiling attitude to bring tourist back to the “Land of Smiles”. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (บช.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยม 2523 |
Degree Name: | บัญชีมหาบัณฑิต |
Degree Level: | ปริญญาโท |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/27693 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Grad - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Anuwat_Ko_front.pdf | 400.96 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Anuwat_Ko_ch1.pdf | 447.45 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Anuwat_Ko_ch2.pdf | 864.98 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Anuwat_Ko_ch3.pdf | 1.21 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Anuwat_Ko_ch4.pdf | 851.75 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Anuwat_Ko_ch5.pdf | 333.29 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Anuwat_Ko_back.pdf | 1.29 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.