ทัศนคติที่มีต่อการฝึกอาชีพของผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีภูมิหลังต่างกัน

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มุ่งศึกษาทัศนคติที่มีต่อการฝึกอาชีพของผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และศึกษาเปรียบเทียบกับทัศนคติที่มีต่อการฝึกอาชีพของผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีภูมิหลังต่างกัน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 335 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบสอบถามสถานภาพและภูมิหลังของผู้ต้องขังและแบบสอบถามทัศนคติที่มีต่อการฝึกอาชีพ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละและใช้สถิติพื้นฐาน F-test (One way analysis of Variance) และ t-test ของเชฟเฟ (Scheffe') ผลการวิจัยพบว่า ผู้ต้องขังส่วนใหญ่อายุ 20-29 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดต่างๆที่ไม่ใช่เขตเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พื้นฐานการศึกษาส่วนใหญ่ จบ ป.4 สามารถอ่านเขียนภาษาไทยได้ มีอาชีพรับจ้างรายได้ต่อเดือนก่อนต้องโทษต่ำกว่า 2,000 บาท มีสถานภาพโสด พี่น้องในครอบครัว 2 - 6 คน เคยถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นครั้งแรกคิดเป็นร้อยละ 72.8 อาชีพของผู้ปกครอง ทำนา ทำไร่ ค้าขาย รายได้รวมกันของผู้ปกครอง 4,000-5,000 มาทต่อเดือน ผู้ต้องขังไม่เห็นด้วยในเรื่องรายได้จากการปันผล เพราะรายได้นั้นไม่สามารถนำไปช่วย เหลือครอบครัวภายนอกได้ ผู้ต้องขังมีทัศนคติต่อการฝึกอาชีพ ในด้านการยอมรับในตัวครูไม่แตกต่างกันแต่แตกต่างกันในด้าน การยอมรับคุณค่าของการฝึกอาชีพและรวมทั้งสองด้านอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 แต่ผู้ต้องขังเลือกฝึกอาชีพต่างกัน มีทัศนคติที่มีต่อการฝึกอาชีพด้านการยอมรับในตัวครูและด้านการยอมรับคุณค่าของการฝึกอาชีพและรวมทั้ง 2 ด้าน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05