การศึกษาความเป็นไปได้ด้านเศรษฐศาสตร์ในการนำก๊าซมีเทน จากก๊าซธรรมชาติมาใช้เป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมันเตา ในโรงงานอุตสาหกรรม

Abstract

ก๊าซมีเทนจากก๊าซธรรมชาติเป็นส่วนที่เหลือจากโรงแยกก๊าซซึ่งได้แยกสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่มีคุณค่าต่าง ๆ ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นแล้ว โดยการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยมีโครงการที่จะวางท่อส่งก๊าซมายังโรงงานอุตสาหกรรมบริเวณปู่เจ้าสมิงพรายและบางพลีเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมันเตาในหม้อไอน้ำและเตาเผา วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะศึกษาว่าโรงงานอุตสาหกรรมบริเวณดังกล่าวซึ่งมีปริมาณ 130 โรง จะมีความเหมาะสมที่จะทำการดัดแปลงอุปกรณ์มาใช้ก๊าซมีเทนแทนน้ำมันเตาหรือไม่ การศึกษาด้านการตลาดพบว่าปริมาณการใช้น้ำมันเตาภายในประเทศมีแนวโน้มที่สูงขึ้นตลอดเวลา ปริมาณการผลิตน้ำมันเตาของโรงกลั่นน้ำมันภายในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการถ้าไม่มีการนำพลังงานทดแทนอย่างอื่นมาใช้ ราคาการจำหน่ายปลีกของน้ำมันเตาก็มีแนวโน้มที่สูงขึ้นโดยเกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันดิบซึ่งถูกกำหนดโดยสภาวะเศรษฐกิจและสถานะการ์ณการเมืองของโลกซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การศึกษาด้านวิศวกรรมพบว่า ก๊าซมีเทนมีคุณสมบัติที่สามารถจะนำมาใช้แทนน้ำมันเตาได้เป็นอย่างอี โดยมีประสิทธิภาพเชิงความร้อนไม่ต่ำกว่าเมื่ออุปกรณ์ทำงานที่ภาวะปกติ มลภาวะที่เกิดขึ้นน้อยกว่า และค่าบำรุงรักษาก็ต่ำกว่าเมื่อตอนใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิง การศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ โดยทำการสุ่มตัวอย่างโรงงานอุตสาหกรรมบริเวณดังกล่าวตามสัดส่วนประเภทของโรงานเป็นจำนวน 10 โรง ศึกษาถึงค่าใช้จ่ายในการดัดแปลงและเปลี่ยนอุปกรณ์ทั้งหมดปรากฏว่าจะเสียค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 45,127,450 บาท โดยตั้งสมมติฐานว่ากู้เงินเพื่อดำเนินการทั้งหมด เสียอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 17 ต่อปี ชำระคืนทั้งหมดใน 5 ปี ราคาจำหน่ายก๊าซมีเทนร้อยละ 90 ของราคาการจำหน่ายน้ำมันเตาที่ค่าความร้อนเท่ากัน อุปกรณ์มีอายุการใช้งาน 10 ปี เมื่อทำการคำนวณด้านการเงินซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้ อัตราผลตอบแทนการลงทุนทั้งสิ้น ร้อยละ 51.18 ระยะเวลาคืนทุนในอัตราผลตอบแทนร้อยละ 15 ต่อปี 2 ปี 7 เดือน จุดคุ้มทุนเมื่อเทียบเป็นมูลค่าการใช้น้ำมันเตาเดิม 451,274,500 บาท จากผลดังกล่าวปรากฏว่าโครงการนี้มีความเหมาะสมในการลงทุนซึ่งการศึกษานี้จะเป็นแนวทางให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมที่การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยจะทำการวางท่อส่งก๊าซมีเทนผ่านในอนาคต