Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/74952
Title: ความปลอดภัยและประสิทธิศักย์ของการใช้อิมัลชันไขมันที่ประกอบด้วยส่วนผสมของน้ำมันถั่วเหลือง ไตรกลีเซอไรด์ชนิดสายยาวปานกลาง น้ำมันมะกอกและน้ำมันปลา ในทารกแรกเกิดศัลยกรรมที่ได้รับอาหารทางหลอดเลือดดำ ณ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
Other Titles: Safety of a lipid emulsion containing a mixture of soybean oil, medium-chain triglycerides,olive oil and fish oil in surgical neonate receiving parenteral nutrition at Queen Sirikit national institute of child health
Authors: อุรารัตน์ อริยวังโส
Advisors: ชาญกิจ พุฒิเลอพงศ์
สุนทรี รัตนชูเอก
ไมตรี อนันต์โกศล
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะเภสัชศาสตร์
Advisor's Email: Chankit.P@Chula.ac.th
ไม่มีข้อมูล
ไม่มีข้อมูล
Subjects: อิมัลชัน
น้ำมันถั่วเหลือง
น้ำมันปลา
น้ำมันมะกอก
Nutrition
Olive
Fish oil
Issue Date: 2556
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: ที่มาของปัญหา อิมัลชันไขมันที่ใช้ในทารกแรกเกิด ณ.สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีคือ อิมัลชันไขมันที่มีส่วนประกอบของน้ำมันถั่วเหลือง ซึ่งประกอบไปด้วยกรดไขมันชนิดโอเมกา 6 ที่สามารถสร้างสารอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การทำงานของตับผิดปกติ การเพิ่มการให้น้ำมันปลาซึ่งประกอบไปด้วยกรดไขมันชนิดโอเมกา 3 ที่สามารถสร้างสารด้านการอักเสบอาจช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดได้ในทารกแรกเกิดศัลยกรรมที่ได้รับอาหารทางหลอดเลือดดำเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน วัตถุประสงค์ เปรียบเทียบความปลอดภัยและประสิทธิศักย์ของอิมัลชันไขมันที่ประกอบด้วยส่วนผสมของน้ำมันถั่วเหลือง ไตรกลีเซอไรด์ชนิดสายยาวปานกลาง น้ำมันมะกอกและน้ำมันปลากับอิมัลชันไขมันชนิดทำมาจากน้ำมันถั่วเหลืองเพียงชนิดเดียวในทารกแรกเกิดศัลยกรรมที่ได้รับอาหารทางหลอดเลือดดำเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน วิธีการศึกษาทารกแรกเกิดศัลยกรรมจำนวน 42 รายที่เป็นโรค gastroschisis, jejuno-ileal atresia, omphalocele และ duodenal atresia ถูกสุ่มโดยวิธีจัดสรรแบบล็อกขนาด 4 ให้ได้รับอาหารทางหลอดเลือดดำร่วมกับอิมัลชันไขมันที่ประกอบด้วยส่วนผสมของน้ำมันถั่วเหลือง ไตรกลีเซอไรด์ชนิดสายยาวปานกลาง น้ำมันมะกอกและน้ำมันปลา (กลุ่มทดลอง) กับอิมัลชันไขมันชนิดทำมาจากน้ำมันถั่วเหลืองเพียงชนิดเดียว (กลุ่มควบคุม) เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน โดยเริ่มต้นปริมาณไขมันที่ 0.5 กรัม/กิโลกรัม/วัน และปรับเพิ่มวันละ 0.5 กรัม/กิโลกรัม/วัน จนถึงปริมาณสูงสุดคือ 3 และ 3.5 กรัม/กิโลกรัม/วัน ในทารกครบกำหนดและทารกเกิดก่อนกำหนด ตามลำดับ จนกระทั่งทารกสามารถรับอาหารทางลำไส้ได้ถึงร้อยละ 50 ของพลังงานที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน เก็บข้อมูลจากตัวอย่างเลือดและผลตรวจร่างกายในวันแรกรับ, วันที่ 8, 15 และ 22 ของการได้รับอาหารทางหลอดเลือดดำ ผลการศึกษาทารกแรกเกิดศัลยกรรมจำนวน 42 รายทุกคนอยู่ครบตลอดช่วงการศึกษาทารกทุกคนสามารถทนได้ต่อขนาดไขมันที่ให้และไม่มีรายใดที่เกิดอาการแพ้อิมัลชันไขมันที่นำมาศึกษา ความปลอดภัยประเมินจากความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ระดับไขมันในเลือด การทำงานของไตและประสิทธิศักย์ประเมินจาก น้ำหนักตัว ความยาวและเส้นรอบวงศีรษะพบว่า ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองแต่ค่าเฉลี่ยของบิลิรูบินรวมและไดเร็คบิลิรูบินในกลุ่มควบคุมกับกลุ่มทดลองมีค่าเท่ากับ 3.21 ± 1.99 กับ 0.99 ± 0.79, 2.54 ± 1.75 กับ 0.58 ± 0.52 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ตามลำดับซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) ค่าบิลิรูบินรวมและไดเร็คบิลิรูบินที่ต่ำกว่าบ่งบอกถึงผลข้างเคียงต่อตับที่น้อยกว่าและน่าจะมีศักยภาพในการลดการเกิดภาวะน้ำดีคั่ง สรุปผล อิมัลชันไขมันที่มีส่วนประกอบของน้ำมันถั่วเหลืองไตรกลีเชอไรด์ชนิดสายยาวปานกลาง น้ำมันมะกอกและน้ำมันปลามีความปลอดภัยและน่าจะมีศักยภาพในการลดการเกิดภาวะน้ำดีคั่งของทารกแรกเกิดศัลยกรรม
Other Abstract: BACKGROUND: Current lipid emulsions used in neonates at Queen Sirikit National Institute of Child Health are based on soybean which is rich in omega-6 polyunsaturated fatty acids (PUFAs) with potential to increase inflammation may contribute parenteral nutrition-associated liver disease (PNALD).New fish oil based lipid emulsion (20%SMOFlipid®) has omega-3 PUFAs with potential to increase anti-inflammation may resolve the problem in surgical neonates who receive parenteral nutrition (PN) at least 7 days. OBJECTIVE: To compare safety and efficacy of lipid emulsion containing medium-chain triglyceride (MCTs) and soybean, olive, and fish oils (20%SMOFlipid®) and soybean emulsion (20% Intralipid®) in surgical neonates received PN for at least 7 days. METHODS: Forty-two surgical neonates who were gastroschisis, omphalocele, jejuno-ilea atresia and duodenal atresia were randomized by block size of 4 to receive PN with either 20%SMOFlipid® (study group) or 20%INtralipid® (control group) for at least of 7 days. Lipid started at 0.5 g/kg/day and increased stepwise (by 0.5 g) up to 3 and 3.5 g/kg/day for term and preterm respectively until enteral energy intake approximately 50% of total energy intake. Safety and efficacy parameters were measured on day 0, 8, 15and 22 if PN was continued. RESULTS: Each of 42 neonates in both group was completed the study. Both emulsions were well tolerated without any adverse events. Laboratory safety parameters (haematology, lipid parameters, blood urea nitrogen, creatinine) and efficacy variables (weight, length and head circumference) did not show statistically significant difference between control group and study group. At the end of study, the mean of total bilirubin and direct bilirubin in the control group compared with the study group was 3.21 ± 1.99 VS 0.99 ± 0.79 and 2.54 ± 1.75 VS 0.58 ± 0.52 mg/dL, respectively this values in the study group was significantly lower than the control group (p<0.05) that may be associated with beneficial effect on cholestasis in surgical neonates. CONCLUSION: Surgical neonates received PN with 20%SMOFlipid® was safe and showed a potential beneficial effect on cholestasis.
Description: วิทยานิพนธ์ (ภ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2556
Degree Name: เภสัชศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: เภสัชกรรมคลินิก
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/74952
Type: Thesis
Appears in Collections:Pharm - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Urarat_ar_front_p.pdfหน้าปก สารบัญ บทคัดย่อ1.05 MBAdobe PDFView/Open
Urarat_ar_ch1_p.pdfบทที่ 1885.79 kBAdobe PDFView/Open
Urarat_ar_ch2_p.pdfบทที่ 21.69 MBAdobe PDFView/Open
Urarat_ar_ch3_p.pdfบทที่ 3978.87 kBAdobe PDFView/Open
Urarat_ar_ch4_p.pdfบทที่ 42.98 MBAdobe PDFView/Open
Urarat_ar_ch5_p.pdfบทที่ 5773.89 kBAdobe PDFView/Open
Urarat_ar_back_p.pdfรายการอ้างอิง และภาคผนวก2.2 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.