Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/47549
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorพรศิริ สันทัดรบ-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะครุศาสตร์-
dc.date.accessioned2016-05-12T02:41:13Z-
dc.date.available2016-05-12T02:41:13Z-
dc.date.issued2557-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/47549-
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ระหว่างนักเรียนที่ ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทย โดยการใช้คำถามระดับสูง กับกลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทยแบบ ปกติ 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้คำถาม ระดับสูงก่อนเรียนและหลังเรียน และ 3) เพื่อเปรียบเทียบความคงทนในการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระหว่าง นักเรียนกลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทยโดยการใช้คำถามระดับสูง กับกลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ภาษาไทยแบบปกติ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม จำนวน 72 คน เป็นนักเรียนกลุ่มทดลอง 36 คน และกลุ่มควบคุม 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบวัด ความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบ ค่าที (t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วม (ANCOVA) ผลการวิจัยสรุปได้ว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนกลุ่ม ทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความสามารถใน การอ่านอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนกลุ่มทดลองหลังการทดลอง สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01 3) นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้คำถามระดับสูงมี ความคงทนในการเรียนสูงกว่ากลุ่มที่ได้รับการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ภาษาไทยแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01en_US
dc.description.abstractalternativeThe objectives of this research were to (1) compare critical reading abilities of third grade students between groups being taught by using higher order questions and by using conventional approach, (2) compare critical reading abilities of third grade students by using higher order questions before and after study and (3) compare learning retentions of third grade students between groups being taught by using higher order questions and by using conventional approach. The subjects were 72 third grade students. They were divided into two groups; an experimental group with 36 students and a controlled group with 36 students. The data collection instruments were critical reading test. The data were analyzed by means of arithmetic, standard deviation, t-test and analysis of covariance (ANCOVA). The research results were revealed that (1) critical reading ability of third grade students taught by using higher order questions were significantly higher than those taught by using conventional instruction at .01 level of significance (2) critical reading ability of third grade students taught by using higher order questions were significantly higher than before receiving the using instruction at the .01 level of significance, and (3) third grade students being organized Thai learning activities by using higher order questions have Thai learning retentions were significantly higher than those taught by using conventional instruction at .01 level of significance.en_US
dc.description.sponsorshipเงินทุนเพื่อการวิจัย กองทุนคณะครุศาสตร์ ปี 2554en_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.relation.urihttp://doi.org/10.14457/CU.the.2014.1390-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.subjectการตั้งคำถามen_US
dc.subjectการอ่าน -- การทดสอบความสามารถen_US
dc.subjectความคิดอย่างมีวิจารณญาณen_US
dc.titleผลของการใช้คำถามระดับสูงที่มีต่อความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณและความคงทนในการเรียน ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3.en_US
dc.title.alternativeEffects of using higher order questions on critical reading ability and learning retention of third grade studentsen_US
dc.typeTechnical Reporten_US
dc.email.authorไม่มีข้อมูล-
dc.discipline.code0804en_US
dc.identifier.DOI10.14457/CU.the.2014.1390-
Appears in Collections:Edu - Research Reports

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Pornsiri_sa.pdf3.3 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.