Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/59458
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorดรุณวรรณ สุขสม-
dc.contributor.advisorฮิโรฟุมิ ทานากะ-
dc.contributor.advisorนภา ปริญญานิติกูล-
dc.contributor.authorเสาวลักษณ์ ศิริปัญญา-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา-
dc.date.accessioned2018-09-14T05:06:04Z-
dc.date.available2018-09-14T05:06:04Z-
dc.date.issued2560-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/59458-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (วท.ด.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2560-
dc.description.abstractการศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการเดินสมาธิต่อการทำงานของหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระหว่างรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลิน กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระยะที่ 1 และ 2 อายุระหว่าง 30-70 ปี จำนวน 22 คน ทำการสุ่มแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่ใช้ชีวิตตามปกติ จำนวน 11 คน และกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่ออกกำลังกายด้วยการเดินสมาธิ จำนวน 11 คน ทั้งสองกลุ่มจะได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลินจำนวน 4 รอบ ระยะห่างระหว่างรอบ 3 สัปดาห์ รวม 12 สัปดาห์ กลุ่มเดินสมาธิทำการฝึกเดินด้วยตนเองที่บ้าน ซึ่งประกอบไปด้วยการบีบ-คลายลูกบอลยางในมือทั้งสองข้างเป็นจังหวะขณะก้าวเดินเพื่อเป็นการฝึกสมาธิ และเดินออกกำลังกายที่ความหนัก 60-70% ของอัตราการเต้นหัวใจสำรอง เวลา 30 นาทีต่อครั้ง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลาทั้งสิ้น 12 สัปดาห์ กลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มจะได้รับการทดสอบทางสรีรวิทยาทั่วไป การทำงานระบบหัวใจและไหลเวียนโลหิต การทำงานของหลอดเลือด สารชีวเคมีในเลือด ความเครียด ความเหนื่อยล้า กิจกรรมทางกาย และคุณภาพชีวิต ในช่วงก่อนรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลิน หลังรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลิน 2 สัปดาห์ และหลังรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลินครบ 12 สัปดาห์ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยการทดสอบความแปรปรวนสองทางแบบวัดซ้ำ 2x3 (กลุ่มxเวลา) และเปรียบเทียบความแตกต่างแบบรายคู่ โดยใช้วิธีการทดสอบของแอลเอสดี (LSD) พิจารณาความแตกต่างที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ผลการวิจัย พบว่า การทำงานของเซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือด ความสามารถในการใช้ออกซิเจนสูงสุด กิจกรรมทางกายและคะแนนคุณภาพชีวิตเพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มเดินสมาธิ ความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัว ระดับความเครียด และสัดส่วนความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจความถี่ต่ำต่อความถี่สูงลดลง เมื่อเทียบกับก่อนเดินสมาธิอย่างนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สรุปได้ว่า โปรแกรมการออกกำลังกายด้วยการเดินสมาธิมีประสิทธิภาพในการพัฒนาสมรรถภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด การตอบสนองของหลอดเลือด และคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระหว่างการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดให้ดีขึ้นได้-
dc.description.abstractalternativeThe purpose of this study was to investigate effects of walking meditation on vascular function in breast cancer patients receiving Anthracyclines chemotherapy. Twenty-two breast cancer patients staging 1 and 2, aged 30-70 years, were studied. The participants were randomly assigned into either the walking meditation training group (WM; n=11) or the sedentary control group (CON; n=11). All participants in each group received 4 cycles of Anthracyclines chemotherapy (AC) every 3 weeks for 12 weeks. The WM group was subjected to home-base walking exercises that comprised of rhythmically squeezing rubber ball in both hands and was instructed to practice mindfulness while walking. The participants performed exercises at 60-70% heart rate reserve, 30 min/time, 3 times/week for 12 weeks. Cardiovascular fitness, vascular function, blood chemistry, psychological stress, fatigue, physical activity, and quality of life were measured. The 2x3 (groups x times) ANOVA repeated measurement followed by Fisher's Least Significant Difference (LSD) multiple comparisons was used to determine the significant difference in all variables before receiving first AC, 2 weeks after receiving first AC (before the intervention) and 12 weeks after receiving AC and walking training (after the intervention). The results showed that endothelial function, peak aerobic capacity, physical activity and quality of life increased significantly (p<0.05) in WM. Systolic blood pressure, psychological stress level and LF/HF of heart rate variability were significantly decreased (p<0.05) in WM when compared with pre-training. In conclusion, walking meditation exercise program was effective in improving cardiovascular fitness, vascular reactivity and quality of life in breast cancer patients undergoing Anthracyclines chemotherapy.-
dc.language.isoth-
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.relation.urihttp://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2017.1212-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.subjectมะเร็ง -- ผู้ป่วย-
dc.subjectเต้านม -- มะเร็ง-
dc.subjectCancer -- Patients-
dc.subjectBreast -- Cancer-
dc.titleผลของการเดินสมาธิต่อการทำงานของหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระหว่างรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลิน-
dc.title.alternativeEffects of walking meditation on vascular function in breast cancer patients receiving Anthracyclines chemotherapy-
dc.typeThesis-
dc.degree.nameวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต-
dc.degree.levelปริญญาเอก-
dc.degree.disciplineวิทยาศาสตร์การกีฬา-
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-
dc.email.advisorDaroonwan.S@Chula.ac.th,daroonwanc@hotmail.com-
dc.email.advisorhtanaka@austin.utexas.edu-
dc.email.advisorsomnapa77@hotmail.com-
dc.identifier.DOI10.58837/CHULA.THE.2017.1212-
Appears in Collections:Spt - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
5678610739.pdf14.09 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.