Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/64064
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorทัชชมัย ทองอุไร-
dc.contributor.authorภคินี โพธานุรักษ์-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์-
dc.date.accessioned2019-12-06T01:57:12Z-
dc.date.available2019-12-06T01:57:12Z-
dc.date.issued2561-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/64064-
dc.descriptionเอกัตศึกษา (ศศ.ม.)—จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2561en_US
dc.description.abstractเอกัตศึกษาเล่มนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อการท่องเที่ยว โดยศึกษาถึงปัญหาการท่องเที่ยวและหลักเกณฑ์ในการจัดเก็บภาษีเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะของประเทศไทยที่สามารถนำมาใช้ในการจัดการกับปัญหาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและพัฒนาการท่องเที่ยวในประเทศไทย พร้อมทั้งศึกษาหลักเกณฑ์ในการจัดเก็บภาษีเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะสำหรับการท่องเที่ยวของประเทศสเปนเพื่อเป็นแนวทางในการนำมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย จากการวิเคราะห์สถานการณ์และสภาพปัญหาของการท่องเที่ยวในประเทศไทย พบว่าประเทศไทยประสบปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในประเทศไทยได้แก่ แหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม เกิดความแออัดของแหล่งท่องเที่ยว ระบบสาธารณูปโภคไม่เพียงพอและลดความประทับใจของนักท่องเที่ยว ดังนั้นการได้รับการจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสมและเพียงพอจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้แต่ละโครงการประสบความสำเร็จ และเพื่อให้หน่วยงานมีงบประมาณในการบูรณาการพัฒนาการท่องเที่ยวในประเทศไทย ประเทศไทยไม่เคยมีการจัดเก็บภาษีเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อการท่องเที่ยวมาก่อน จึงได้มีการศึกษาถึงหลักเกณฑ์ในการจัดเก็บภาษีและผลจากการจัดเก็บภาษีของประเทศสเปน เพื่อนำหลักเกณฑ์ในการจัดเก็บภาษีเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อการท่องเที่ยวมาประยุกต์ใช้ในการจัดเก็บภาษีของประเทศไทย ซึ่งจากการศึกษาพบว่าประเทศไทยประสบปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมืองเช่นเดียวกับประเทศสเปน พร้อมทั้งรัฐของประเทศไทยและประเทศสเปนมีการจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวโดยวัตถุประสงค์เฉพาะแต่ประเทศไทยยังขาดงบประมาณที่เพียงดอและเหมาะสมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ดังนั้นจึงมีความเหมาะสมที่จะนำแนวทางการจัดเก็บภาษีเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อการท่องเที่ยวของประเทศสเปนมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ภาครัฐและนำรายได้จากการจัดเก็บภาษีไปใช้ไปการพัฒนาการท่องเที่ยวในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็วen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.relation.urihttp://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2018.38-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.subjectอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวen_US
dc.subjectค่าธรรมเนียมสิ่งแวดล้อมen_US
dc.subjectการท่องเที่ยว--รายได้en_US
dc.titleแนวทางการจัดเก็บภาษีเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ สำหรับการท่องเที่ยวในประเทศไทยen_US
dc.typeIndependent Studyen_US
dc.degree.nameศิลปศาสตรมหาบัณฑิตen_US
dc.degree.levelปริญญาโทen_US
dc.degree.disciplineกฎหมายเศรษฐกิจen_US
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.email.advisorTashmai.R@chula.ac.th-
dc.subject.keywordบริการท่องเที่ยวen_US
dc.subject.keywordจัดเก็บภาษีen_US
dc.subject.keywordนักท่องเที่ยวen_US
dc.subject.keywordภาษีสิ่งแวดล้อมen_US
dc.subject.keywordโรงแรมen_US
dc.identifier.DOI10.58837/CHULA.IS.2018.38-
Appears in Collections:Law - Independent Studies

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
6086215534.pdf1.01 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.