Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/76410
Title: การซ้อนทับจับวางของวาทกรรมทัณฑวิทยา: วงศาวิทยาของการใช้โทษประหาร และความรุนแรงเพื่อการลงทัณฑ์ในประวัติศาสตร์ไทย
Other Titles: The imbrication of penological discourses : the genealogy of the uses of death penalty and violent punishments in the Thai history
Authors: ภูวดล ไชยอินทร์
Advisors: กีรติ ชื่นพิทยาธร
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะรัฐศาสตร์
Issue Date: 2563
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: ในการลงทัณฑ์ในประวัติศาสตร์ไทยเป็นการใช้ความรุนแรงของรัฐกระทำต่อมนุษย์ผู้อยู่ในสังคม โดยสังคมย่อมยินยอมให้รัฐลงโทษมนุษย์ที่กระทำความผิด อย่างไรก็ตามการลงโทษทัณฑ์ของรัฐต้องอาศัยความสมเหตุสมผลซึ่งเป็นอำนาจของความรู้อย่างหนึ่งในการสร้างความชอบธรรมในการปกครอง วิทยานิพนธ์ฉบับนี้เป็นการชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของโทษทัณฑ์ในฐานะวาทกรรมอย่างหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงตามรูปแบบของรัฐไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงการให้เหตุผลในการลงโทษในแต่ละสมัย โดยพิจารณาจากการเปลี่ยนผ่านรูปแบบการให้ความสมเหตุสมผลของภาครัฐ และความเห็นจากภาคสังคม ผ่านกรณีศึกษาการลงโทษประหารชีวิต และรูปแบบของเรือนจำ ด้วยวิธีวงศาวิทยาเชิงประวัติศาสตร์ จากปัจจุบันร่วมสมัยจนถึงรัฐสมัยโบราณ ซึ่งทำให้เห็นว่าในมิติทางประวัติศาสตร์การลงโทษเป็นเพียงวาทกรรมที่ปรากฏเด่นชัดในแต่ละยุคสมัย โดยเป็นอิทธิพลของการรับเอาวิธีคิดจากภายนอกเข้ามาปะทะกับความคิดภายในสังคมแบบเดิม และทำให้ความคิดที่เป็นวาทกรรมเกิดการซ้อนทับกันเป็นชั้น โดยต่างเป็นการจับวางในวาทกรรมทัณฑวิทยาทั้งรูปแบบดังต่อไปนี้ (1) การแก้แค้นทดแทนให้สาสม (2) การลงโทษเพื่อการยับยั้งป้องกัน และ (3) การลงโทษเพื่อการบำบัดฟื้นฟู ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งของรัฐไทยในการผดุงความชอบธรรมของความสมเหตุสมผลของการลงโทษในสังคมไว้แบบเดิม วิทยานิพนธ์ฉบับนี้นับเป็นคุณูปการในการพยามนำเสนอการใช้วิธีวงศาวิทยาในการศึกษาการลงทัณฑ์ในประวัติศาสตร์ไทย ตลอดจนเปิดมุมมองที่หลากหลายต่อความสมเหตุสมผลของกรอบคิดของการลงโทษแบบอื่นๆต่อไป
Other Abstract: The punishments in the Thai history have characteristically been the uses of state violence against their citizen in the society, which allowed the state to punish its subjects as the offenders. However, such punishments required justification, which is, the utilisation of the power of knowledge to establish the legitimacy for the ruling states. This thesis examined the relationship between the penological discourses and the state’s utilisation of the death penalty and violent punishment, according to in the changes in rationales of those punishments in different periods. The transitions of the rationalisation of the state regulations and social sanctions have been studied based on the cases of the death penalty and the imprisonment, using the historical-genealogical method from the contemporary era to the ancient state. The findings reviled that such punishments were shaped by the penological discourses evident in the different era. Consequently, the crystallisation of the overall process was influenced by collisions between the adoption of external thoughts and traditional thoughts within the state, triggering the discourses to multiply and imbricated in all the three layers of penological discourse: (1) The Theology Revenge Discourse, (2) The Prevention and Deterrence Discourse, and (3) Restoration and Rehabilitation Discourse. All in all, the imbrication of the penological discourse was one of the many ways in which the Thai state sought to maintain the legitimacy of punishment in society. This thesis intends to contribute, the uses of genealogy in the study of penalties in Thai history and evince the many justification perspectives of the punishments.
Description: วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2563
Degree Name: ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: อาชญาวิทยาและงานยุติธรรม
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/76410
URI: http://www.doi.org/10.58837/CHULA.THE.2020.1300
metadata.dc.identifier.DOI: 10.58837/CHULA.THE.2020.1300
Type: Thesis
Appears in Collections:Pol - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
6180997624.pdf3.22 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.