Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/81356
Title: | การผลิตกระแสไฮโดรเจนเข้มข้นจากแก๊สเรือนกระจกมีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์ : รายงานฉบับสมบูรณ์การวิจัย |
Other Titles: | H₂-rich strem production from methane and carbon dioxide greenhouse gas |
Authors: | ณัฐธยาน์ พงศ์สถาบดี |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิทยาศาสตร์ |
Subjects: | เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ก๊าซเรือนกระจก มีเทน คาร์บอนไดออกไซด์ |
Issue Date: | 2556 |
Publisher: | คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตไฮโดรเจนจากระบบร่วมปฏิกิริยารีฟอร์มมิ่งมีเทนด้วยคาร์บอนไดออกไซด์และปฏิกิริยาวอเตอร์แก๊สชิฟต์ จากผลการทดลองในส่วนของปฏิกิริยารีฟอร์มมิ่งมีเทนด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ พบว่า ตัวเร่งปฏิกิริยา 7%Ni/zeolite Y ซึ่งเตรียมด้วยวิธีเคลือบฝังแบบเปียกพอดีรูพรุน แสดงประสิทธิภาพการทำงานที่ดี ณ 800 องศาเซลเซียส เมื่ออัตราส่วนโดยโมลระหว่างมีเทนต่อคาร์บอนไดออกไซด์เท่ากับ 1 และความเร็วแก๊สผ่านเบด เท่ากับ 15,000 ลูกบาศก์เซนติเมตรต่อชั่วโมงต่อกรัมตัวเร่งปฏิกิริยา โดยให้ค่าการเปลี่ยนของมีเทน ค่าการเปลี่ยนของคาร์บอนไดออกไซด์ และค่าการเลือกเกิดไฮโดรเจน ประมาณร้อยละ 99 โดยปราศจากการเกิดโค้ก จากผลการทดลองในส่วนของวอเตอร์แก๊สชิฟต์บนตัวเร่งปฏิกิริยาโลหะออกไซด์ผสมของทองแดง ซีเรียมและเหล็ก ที่เตรียมด้วยวิธีเผาไหม้ยูเรียและไนเตรตโดยใช้การออกแบบทางสถิติสองชุดเพื่อลดจำนวนการทดลองลงสำหรับหาภาะที่เหมาะสมที่ทำให้ได้ค่าการเปลี่ยนของคาร์บอนมอนอกไซด์สูงสุดและแสดงให้เห็นถึงอันตรกิริยาระหว่างปัจจัย ในขั้นแรกจะดำเนินการออกแบบเต็มรูปแบบของ 2⁵ แฟ็คทอเรียลด้วยกับจุดกลาง 3 จุด เพื่อคัดกรองปัจจัยที่ส่งผลอย่าง นัยสำคัญต่อค่าการเปลี่ยน และหาภาวะที่เหมาะสมใช้การออกแบบคอมโพสิตกลางศูนย์กลางผิวหน้า (FCCCD) ซึ่งเลือกสองปัจจัยที่มีอิทธิพลจากห้าปัจจัยหลักที่เป็นอิสระ พิจารณาจากความมีนัยสำคัญของปัจจัยต่อค่าการเปลี่ยนของคาร์บอนมอนอกไซด์ ได้แก่ ความเข้มข้นของออกซิเจนในสายป้อน และอุณหภูมิปฏิกิริยา ได้ค่าการเปลี่ยนของคาร์บอนมอนอกไซด์สูงสุด 0.87 โดยเติมออกซิเจนร้อยละ 0.10 และน้ำร้อยละ 30 ในสายป้อน ณ อุณหภูมิ 333 องศาเซลเซียส อัตราส่วน W/F เท่ากับ 0.24 กรัม -วินาที ต่อลูกบาศก์เซนติเมตรและอัตราส่วนโดยโมล Cu/(Cu+Zn+Fe) เท่ากับ 0.30 จากการทดสอบเสถียรภาพของตัวเร่งปฏิกิริยา Cu₀.₃₀Zn₀.₅Fe สำหรับปฏิกิริยาวอเตอร์แก๊สชิฟต์ พบว่าตัวเร่งปฏิกิริยา Cu₀.₃₀Zn₀.₅Fe มีเสถียรภาพสูงตลอดช่วงเวลา 100 ชั่วโมง |
Other Abstract: | The purpose of this study is to produce H₂ via CO₂ reforming of CH₄ (CRM), and water-gas shift (WGS) reaction. In a part of CRM study, the 7%Ni/zeolite Y catalyst synthesized via incipient wetness impregnation showed an excellent performance at 800 °C with a CH₄/CO₂ mole ratio of 1 and SV = 15,000 cm³ h⁻¹ gcat⁻¹ , which obtained the CH₄ conversion, CO₂ conversion, and H₂ selectivity of -99% with no coking formation. In a part of WGS study, the catalytic performance of the CuZn- Fe composite-oxide catalysts prepared by the urea-nitrate combustion (UNC) method was investigated. In order to reduce the total number of experiments to achieve the optimal condition of CO conversion in the reaction and to reveal the interactions among the factors, two sets of statistical designs of experiments were carried-out. Initially, a full 2⁵ factorial design with three central points was done for screening important variabilities. In order to continue the optimization, the application of the face-centered central composite design (FCCCD) falling under response surface methods was done. Two influent independent factors were selected from the five main factors. Based on the important variabilities in the conversion, the O₂ concentration in the feedstream and the reaction temperature were then selected to achieve the optimal condition for CO conversion. The maximum CO conversion of 0.87 was obtained when adding 0.10% O₂ and 30% H₂O in the feedstream at 333 °C, W/F ratio of 0.24 g s cm-³ , and Cu molar ratio of 0.30. Deactivation tests Cu₀.₃₀Zn₀.₅Fe for WGS showed high stability in terms of the CO conversiton and H₂ yield for whole 100-hour-operating time. |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/81356 |
Type: | Technical Report |
Appears in Collections: | Med - Research Reports |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Nattaya Po_Res_2556.pdf | รายงานการวิจัยฉบับเต็ม (Fulltext) | 58.25 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.