dc.contributor.advisor |
ศิรางค์ ทับสายทอง |
|
dc.contributor.author |
ศิวะพร เทพภิบาล |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะจิตวิทยา |
|
dc.date.accessioned |
2009-08-17T08:24:30Z |
|
dc.date.available |
2009-08-17T08:24:30Z |
|
dc.date.issued |
2546 |
|
dc.identifier.isbn |
9741749678 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/10202 |
|
dc.description |
วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2546 |
en |
dc.description.abstract |
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยที่สัมพันธ์กับอำนาจควบคุมตนเองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนจำนวนทั้งสิ้น 1,134 คน ได้รับการสุ่มเลือกจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนรัฐบาลจำนวน 6 โรงเรียน หลังการตอบแบบวัดอำนาจควบคุมตนของ Nowicki & Strickland (1973) แล้วกลุ่มตัวอย่างได้รับการแบ่งกลุ่มเป็น 2 กลุ่ม โดยเป็นกลุ่มที่มีความเชื่อในอำนาจควบคุมภายในตน จำนวน 150 คน (คะแนนเปอร์เซ็นต์ไทล์ที่ 1-20) และเป็นกลุ่มที่มีความเชื่อในอำนาจควบคุมภายนอกตนอีก 150 คน (คะแนนเปอร์เซ็นต์ไทล์ที่ 80-100) จากนั้นให้ทั้ง 2 กลุ่มทำแบบวัดการเห็นคุณค่าในตนเองของ Coopersmith (1967) และแบบสอบการคิดอย่างมีวิจารณญาณตามแนวคิดของ Ennis และ Millman (1985) นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์การจำแนกกลุ่ม (Discriminant Analysis) ด้วยวิธีการวิเคราะห์แบบขั้นตอน (Stepwise) โดยใช้สถิติวิลค์สแลมดา (Wilks' Lambda) เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกตัวแปรเข้าวิเคราะห์ ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยทั้ง 2 ปัจจัย คือ การเห็นคุณค่าในตนเองและการคิดอย่างมีวิจารณญาณสามารถอธิบายความแปรปรวนของการเป็นสมาชิกระหว่างกลุ่มที่มีความเชื่อในอำนาจควบคุมภายในตนและกลุ่มที่มีความเชื่อในอำนาจควบคุมภายนอกตนเองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ได้ถึงร้อยละ 62.4 ดังนี้ คือ การเห็นคุณค่าในตนเอง (Ci=0.871) และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ (Ci=0.518) และจำนวนเปอร์เซ็นต์ของประสิทธิภาพในการทำนายการเป็นสมาชิกกลุ่มอำนาจควบคุมของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4 เท่ากับ 90.3 |
en |
dc.description.abstractalternative |
The purpose of this research was to study factors related to locus of control of mathayomsuksa-4 students. 1,134 subjects of this research were randomized from mathayomsuksa 4 students enrolling in 6 public schools. After completing the locus of control inventory (Nowicki & Strickland, 1973), the subjects were divided into two groups : 150 internal locus of control group (scores from percentile 1st-20th), 150 external locus of control group (scores from percentile 80th-100th). Then, the two groups were assigned to complete the self-esteem inventory (Coopersmith, 1967) and Cornell Critical Thinking test Level X (Ennis & Millman, 1985). The data were analysed by stepwise discriminant analysis and Wilks's lambda method was used as the entry criterion. The result is as follows : The 2 factors : Self-esteem and critical thinking are able to account for the variance of group membership between internal and external locus of control of mathayomsuksa 4 students 62.4 percent : self-esteem (Ci=0.871) and critical thinking (Ci=0.518) And the percentage of effectiveness in predicting group membership of locus of control of mathayomsuksa 4 students is 90.3. |
en |
dc.format.extent |
1378043 bytes |
|
dc.format.mimetype |
application/pdf |
|
dc.language.iso |
th |
es |
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en |
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en |
dc.subject |
แนวคิดอำนาจควบคุมตน |
en |
dc.subject |
ความนับถือตนเอง |
en |
dc.subject |
นักเรียนมัธยมศึกษา |
en |
dc.title |
ปัจจัยที่สัมพันธ์กับอำนาจควบคุมตนของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4 |
en |
dc.title.alternative |
Factors related to locus of control of mathayomsuksa four students |
en |
dc.type |
Thesis |
es |
dc.degree.name |
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต |
es |
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
es |
dc.degree.discipline |
จิตวิทยาพัฒนาการ |
es |
dc.degree.grantor |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en |
dc.email.advisor |
Sirang.T@Chula.ac.th |
|