Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการคิดหาเหตุผลเชิงตรรกศาสตร์ ทักษะการคำนวณในการเรียนวิชาฟิสิกส์และความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กรุงเทพมหานครและ 2) เพื่อสร้างสมการถดถอยพหุคูณในการทำนายความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์โดยใช้ความสามารถในการคิดหาเหตุผลเชิงตรรกศาสตร์และทักษะการคำนวณในการเรียนวิชาฟิสิกส์เป็นตัวพยากรณ์ ประชากรที่ศึกษาคือนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายแผนการเรียนคณิตศาสตร์-วิทยาศาสตร์ ในโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดกรมสามัญศึกษา กรุงเทพมหานคร ตัวอย่างประชากรคือนักเรียนจำนวน 489 คน ซึ่งเลือกมาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นสองขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1. แบบทดสอบความสามารถในการคิดหาเหตุผลเชิงตรรกศาสตร์ 2. แบบทดสอบทักษะการคำนวณในการเรียนวิชาฟิสิกส์ 3. แบบทดสอบความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ แบบทดสอบมีค่าความเที่ยง 0.63, 0.68 และ 0.66 ตามลำดับวิเคราะห์ข้อมูลโดยคำนวณค่าสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน สัมประสิทธิ์ สหสัมพันธ์พหุคูณ และสร้างสมการถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1) ความสามารถในการคิดหาเหตุผลเชิงตรรกศาสตร์มีความสัมพันธ์กับความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ในทิศทางบวกโดยมีค่าประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.69 ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .01 2) ทักษะการคำนวณในการเรียนวิชาฟิสิกส์มีความสัมพันธ์กับความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ในทิศทางบวกโดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.83 ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .01 3) ความสามารถในการคิดหาเหตุผลเชิงตรรกศาสตร์มีความสัมพันธ์กับทักษะการคำนวณในการเรียนวิชาฟิสิกส์ในทิศทางบวกโดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.71 ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .01 4) ความสามารถในการคิดหาเหตุผลเชิงตรรกศาสตร์และทักษะการคำนวณในการเรียนวิชาฟิสิกส์มีความสัมพันธ์กับความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ในทิศทางบวกโดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณเท่ากับ 0.84 ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .01 5) สมการพยากรณ์ความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ (Y) โดยใช้ความสามารถในการคิดหาเหตุผลเชิงตรรกศาสตร์ (X1) และทักษะการคำนวณในการเรียนวิชาฟิสิกส์ (X2) เป็นตัวพยากรณ์ มีรูปแบบดังนี้ สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนดิบคือ Yc = -7.2601 + 0.3226X1 + 0.8611X2 สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐานคือ Zc = 0.2123Z1 + 0.6740Z2