Abstract:
ศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลต่อการประสบความสำเร็จของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคการผลิต ในส่วนของอุตสาหกรรมอาหาร โดยวิธีการศึกษาจะทำการแบ่งกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนกับกรมการค้าภายใน จำนวน 32 บริษัท ออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและกลุ่มของธุรกิจที่ไม่ประสบความสำเร็จ และอาศัยเทคนิคการวิเคราะห์จำแนกประเภท (Discriminant analysis) ในการพิจารณาตัวแปรแนวทางในการปฏิบัติงานที่สามารถใช้จำแนกธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และธุรกิจที่ไม่ประสบความสำเร็จได้ ผลการศึกษาพบว่า แนวทางในการปฏิบัติงานที่มีผลต่อการประสบความสำเร็จของธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมภาคการผลิตในส่วนของอุตสาหกรรมอาหาร มีทั้งสิ้น 6 ปัจจัยด้วยกัน โดยเรียงลำดับตามความสำคัญได้ดังนี้ การวางแผนด้านการเงินล่วงหน้า การคิดค้นและปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างสม่ำเสมอ การปรับปรุงวิธีการดำเนินงานสม่ำเสมอ เพื่อลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การโฆษณาเพื่อนำเสนอสินค้าหรือเผยแพร่ข่าวสารอย่างต่อเนื่อง มีกระบวนการคัดสรรบุคลากรที่มีรูปแบบที่ชัดเจน และมีการติดตามผลการใช้ผลิตภัณฑ์จากลูกค้าสม่ำเสมอ ตามลำดับ นอกจากนี้ในการวิเคราะห์ได้มีการสร้างสมการพยากรณ์การประสบความสำเร็จของธุรกิจ ซึ่งเมื่อนำสมการดังกล่าวมาหาจุดวิกฤติซึ่งเป็นค่าที่ใช้ในการจำแนกประเภทของธุรกิจ ได้ค่าเท่ากับ -1.907 ซึ่งหมายความว่าธุรกิจใดที่ดัชนีการประสบความสำเร็จมีค่าสูงกว่า -1.907 แสดงว่าธุรกิจนั้นประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ และหากธุรกิจใดที่ดัชนีการประสบความสำเร็จมีค่าต่ำกว่า -1.907 แสดงว่าธุรกิจนั้นไม่ประสบความสำเร็จ จากการศึกษาพบว่า สมการพยากรณ์การประสบความสำเร็จดังกล่าวมีความแม่นยำในการพยากรณ์อยู่ในระดับสูง (100%)