Abstract:
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพช่องปากและการเกิดฟันผุหลังจากเสร็จสิ้นโครงการให้ทันตสุขศึกษา โดยการแปรงฟันและการออกเยี่ยมบ้าน เป็นระยะเวลา 1 ปี ในเขตอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น โดยแบ่งกลุ่มการทดลองเป็นสองกลุ่มได้แก่กลุ่มควบคุมประกอบไปด้วย ตำบลน้ำพอง ตำบลบ้านขาม ตำบลบัวเงิน และตำบลคำบง จำนวน 147 คน กลุ่มทดลองประกอบไปด้วย ตำบลวังชัย ตำบลบัวใหญ่ ตำบลพังทุย และตำบลม่วงหวาน 143 คน เมื่อเสร็จสิ้นการวิจัยเหลือกลุ่มตัวอย่าง กลุ่มควบคุม 46 คน กลุ่มทดลอง 56 ทำการศึกษาโดยใช้แบบสอบถามเพื่อหาพฤติกรรมทางด้านทันตสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับเกิดโรคฟันผุ ในเด็กปฐมวัย มีการสอนแปรงฟันร่วมกับการให้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ โดยมีการกระตุ้นโดยออกเยี่ยมบ้านทุก ๆ 4 เดือน เป็นจำนวน 3 ครั้ง จนครบ 1 ปีแล้วจึงทำแบบสอบถามและตรวจฟันซ้ำ เพื่อให้ได้ค่าร้อยละปราศจากฟันผุ และค่าเฉลี่ยผุ อุด ถอน หลังจากเสร็จสิ้นการศึกษาพบว่า กลุ่มควบคุมมีค่าร้อยละปราศจากฟันผุโดยไม่นับรอยโรคขุ่นขาวเป็นฟันผุเท่ากับ 6.52 หากนับรอยโรคขุ่นขาวเป็นฟันผุ ก็จะได้ร้อยละ 6.52 ในกลุ่มทดลองมีค่าร้อยละปราศจากฟันผุโดยไม่นับรอยโรคขุ่นขาวเป็นฟันผุเท่ากับ 64.29 หากนับรอยโรคขุ่นขาวเป็นฟันผุจะได้ร้อยละ 48.21 และพบว่าค่าเฉลี่ยผุ อุด ถอนนับจำนวนซี่โดยนับรอยโรคขุ่นขาวเป็นฟันผุ ในกลุ่มทดลองมีความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติก่อนและหลังการวิจัย โดยในกลุ่มอื่นพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และจากแบบสอบถาม พบว่าพฤติกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงไป คือ พฤติกรรมการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากที่มีมากขึ้นในกลุ่มทดลองหลังเสร็จสิ้นการวิจัย ซึ่งพฤติกรรมอื่น ๆ เช่น การกินนมขวด การกินนมตอนกลางคืน การกินขนม การเติมน้ำตาลลงในขวด การศึกษาและรายได้ของครอบครัว ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ