Abstract:
เปรียบเทียบวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีลักษณะของตัวแปรตามเป็นแบบพหุสำหรับข้อมูลระยะยาว วิธีการที่ใช้ในการวิเคราะห์มี 2 วิธี ได้แก่ การวิเคราะห์จำแนกประเภทแบบพหุ (multiple discriminant method: MDA) ซึ่งใช้หลักของเบส์ในการจำแนกกลุ่ม และวิธีการวิเคราะห์การถดถอย มัลติโนเมียลโลจิสติค (multiple logistic regression method: MLR) ซึ่งใช้สมการประมาณค่าโดยนัยทั่วไป (generalized estimating equation: GEE) ในการจำแนกกลุ่มข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์ประกอบด้วยตัวแปรอิสระและตัวแปรตาม ซึ่งตัวแปรตามเป็นตัวแปรเชิงคุณภาพ ที่มีจำนวนกลุ่มมากกว่า 2 กลุ่ม และตัวแปรอิสระประกอบด้วยตัวแปรเชิงปริมาณและตัวแปรเชิงคุณภาพ โดยการวิจัยครั้งนี้ใช้ข้อมูลจริงทางด้านการแพทย์จำนวน 3 ชุด สำหรับการวิเคราะห์ทั้ง 2 วิธี (การติดตามผลโรคนอนไม่หลับ การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อสะโพก และการรักษาอาการเอ็นร้อยหวายฉีก ตามลำดับ) เกณฑ์ที่ใช้ในการตัดสินใจคือ การวัดค่าความถูกต้องในการจัดกลุ่ม ผลการวิเคราะห์ข้อมูล สรุปได้ดังนี้ ข้อมูลชุดที่ 1 เมื่อกำหนดให้โครงสร้างของความแปรปรวนและความแปรปรวนร่วมมีลักษณะเป็นแบบยูนิฟอร์ม โดยใช้ฟังก์ชันสำเร็จรูป ORDGEE พบว่า วิธีการของ MLR มีค่าความถูกต้องในการจัดกลุ่มสูงสุดข้อมูลชุดที่ 2 เมื่อกำหนดให้โครงสร้างของความแปรปรวนและความแปรปรวนร่วม มีลักษณะเป็นแบบอิสระและยูนิฟอร์ม โดยใช้ฟังก์ชันสำเร็จรูป REPOLR พบว่า ทั้ง 2 วิธีการวิเคราะห์ มีค่าค่าความถูกต้องในการจัดกลุ่มเท่ากัน ข้อมูลชุดที่ 3 เมื่อกำหนดให้โครงสร้างของความแปรปรวนและความแปรปรวนร่วมมีลักษณะเป็นแบบอิสระและยูนิฟอร์ม โดยใช้ฟังก์ชันสำเร็จรูป REPOLR พบว่า ทั้ง 2 วิธีการวิเคราะห์ มีค่าค่าความถูกต้องในการจัดกลุ่มเท่ากัน เมื่อพิจารณาถึงความเหมาะสมในการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยแนะนำให้ใช้วิธี MLR โดยใช้เทคนิค GEE เนื่องจากเป็นวิธีง่ายและสะดวกในการประยุกต์ใช้กับข้อมูลระยะยาว และสอดคล้องกับเงื่อนไขของข้อมูล สำหรับวิธีการของ MDA มีเงื่อนไขที่ใช้ในการวิเคราะห์มาก เช่น เงื่อนไขของตัวแปรอิสระต้องมีการแจกแจงแบบปกติหลายตัวแปร สำหรับฟังก์ชันสำเร็จรูปผู้วิจัยแนะนำให้ใช้ฟังก์ชัน REPOLR เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ดีกว่าฟังก์ชัน ORDGEE.