Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาขนวนการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของสหกรณ์เคหสถานผู้มีรายได้น้อยและเพื่อศึกษาเปรียบเทียบและวิเคราะห์ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคและปัจจัยส่งเสริม ที่มีผลต่อการดำเนินงานของสหกรณ์เคหสถานที่มีขนาดต่างกัน รวมถึงเพื่อหาคุณลักษณะของสมาชิกด้านต่างๆ ที่มีผลต่อการได้มาซึ่งที่ดินและที่อยู่อาศัยของสมาชิกสหกรณ์ การวิจัยแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นการสัมภาษณ์คณะกรรมการเพื่อให้ทราบถึงขบวนการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยและปัญหาอุปสรรค์ถึงปัจจัยส่งเสริมต่อการดำเนินงานของ สหกรณ์ฯ ส่วนที่สองเป็นการสัมภาษณ์สมาชิกสหกรณ์ฯ โดยการใช้แบบสัมภาษณ์เพื่อให้ทราบถึงคุณลักษณะของสมาชิกที่มีผลต่อการได้มาซึ่งที่ดินและที่อยู่อาศัย ใช้กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย 166 คน จากจำนวนประชากรทั้งหมด 332 คน ผลการวิจัย พบว่า ขบวนการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของสหกรณ์เคหสถานผู้มีรายได้น้อยเริ่มจากความไม่มั่นคงในที่อยู่อาศัยของชาวชุมชนแล้วจึงรวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ และจดทะเบียนเป็นสหกรณ์เคหสถานตามลำดับ เพื่อซื้อที่ดินแปลงใหม่เป็นของตนเอง โดยมีสำนักงานพัฒนาชุมชนเมืองเป็นแหล่งเงินกู้สมทบจากนั้นจึงดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยคณะกรรมการและสมาชิกของสหกรณ์ฯ ส่วนขนาดของสหกรณ์ฯ แรกจัดตั้งหรือเริ่มจดทะเบียนเป็นสหกรณ์เคหสถานนั้นมีความสัมพันธ์กับขนาดและจำนวนแปลงที่ดินของโครงการที่อยู่อาศัย ส่วนการเปลี่ยนหรือการขยายขนาดสหกรณ์ฯ ขึ้นอยู่กับนโยบายการบริหารของคณะกรรมการในแต่ละสหกรณ์ฯ ปัญหาและอุปสรรค์ในขบวนการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย พบว่าเกิดจากองค์ประกอบด้านบุคลากรของสหกรณ์ฯ ได้แก่ การลาออกของสมาชิก การเกิดความขัดแย้งระหว่างคณะกรรมการ และพนักงานขาดความรู้ด้านบัญชีสหกรณ์ฯ ส่วนปัจจัยส่งเสริม ได้แก่ ความสามารถของคณะกรรมการโดยเฉพาะผู้ดำรงตำแหน่งประธานสหกรณ์ฯ ที่สามารถเจรจาต่อรองและติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ช่วยเหลือโดยเฉพาะในขั้นตอนของการซื้อและการพัฒนาที่ดินส่งผลให้ต้นทุนของโครงการลดลง ส่วนคุณลักษณะของสมาชิกพบว่าส่วนใหญ่มีระดับรายได้ที่ 5,001-7,000 บาทต่อครอบครัว และอยู่อาศัยแบบเช่าที่ดินเอกชนแต่ปลูกสร้างบ้านเองแล้วโดนไล่รื้อในปัจจุบันสามารถมีที่ดินและที่อยู่อาศัยขนาด 21.45 ตร.วา เป็นของตนเองได้โดยการผ่อนชำระรายเดือนประมาณ 920 บาทสำหรับค่าที่ดินและอีก 2,100 บาทสำหรับสร้างที่อยู่อาศัยกับสหกรณ์ฯ