Abstract:
“ชุมชนซอยวัดหลังบ้าน” เป็นชุมชนที่อยู่อาศัย ที่ตั้งถิ่นฐานมายาวนาน ตั้งอยู่บริเวณปากคลองแม่กลอง เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม มีที่อยู่อาศัยที่ทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมจำนวนหนึ่ง และมีที่อยู่อาศัยทรุดโทรมอยู่มาก ในการที่จะฟื้นฟูชุมชนที่อยู่อาศัยโดยชุมชนเป็นหลัก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนนั้น มีความจำเป็นต้องศึกษาศักยภาพของชุมชนที่มีอยู่ก่อน เพื่อที่จะสามารถร่วมกันกำหนดแนวทางในการฟื้นฟูชุมชนโดยชุมชนเป็นหลักได้ วิทยานิพนธ์ฉบับนี้จึงมุ่งที่จะศึกษาและวิเคราะห์ศักยภาพ คุณค่าและคุณสมบัติของผู้อยู่อาศัยและชุมชน ในชุมชนซอยวัดหลังบ้าน ในการที่จะฟื้นฟูชุมชนที่อยู่อาศัย โดยการสำรวจ การสังเกต การสัมภาษณ์ผู้อยู่อาศัย จำนวน 60 ตัวอย่าง ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้ ลักษณะด้านกายภาพ ชุมชนมีรูปแบบที่อยู่อาศัย 4 รูปแบบ ได้แก่ เรือนทรงไทย (8.8%) เรือนไม้พื้นถิ่น (31.2%) เรือนร่วมสมัย (43.5%) และเรือนสมัยใหม่ (16.5%) สภาพที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่ควรปรับปรุง (63.3%) ลักษณะด้านเศรษฐกิจและสังคมผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่มีรายได้ที่ไม่เพียงพอและมีหนี้สิน ส่วนใหญ่ไม่มีเงินออมเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัย มีระยะเวลาในการอยู่อาศัยมากกว่า 30 ปี มีความรักและผูกพันต่อถิ่นฐานที่ตนอาศัยอยู่ ชุมชนมีระบบความสัมพันธ์กันในลักษณะกลุ่มเครือญาติและละแวกบ้าน มีประเพณีเก่าแก่ยึดถือปฏิบัติสืบทอดต่อกันมา ปัญหาที่พบในชุมชนด้านกายภาพ ได้แก่ น้ำกัดเซาะชุมชน ขาดพื้นที่ส่วนกลาง ทางเดินไม่ได้มาตรฐานไม่มีทางเข้าออก ความแออัดในพื้นที่ น้ำขังไม่มีการระบายน้ำ ปัญหาด้านที่อยู่อาศัย ได้แก่ น้ำกัดเซาะในที่อยู่อาศัย ส้วมขาดสุขลักษณะ ที่อยู่อาศัยมีสภาพทรุดโทรม ปัญหาด้านสังคม ได้แก่ ปัญหายาเสพติด ขาดความสามัคคีในชุมชนและการรวมกลุ่ม ด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ รายได้ที่ไม่เพียงพอเนื่องจากอาชีพที่ไม่มั่นคง เป็นต้น
ผลการศึกษาศักยภาพของชุมชน สรุปได้ว่า ผู้อยู่อาศัยและชุมชนมีศักยภาพในระดับ “น้อย” เนื่องจากมีปัจจัยที่เป็นอุปสรรคคือ 1) การขาดทุนทรัพย์เพื่อใช้เป็นทุนในการฟื้นฟูที่อยู่อาศัยและชุมชน 2) ขาดความรู้ความเข้าใจในการฟื้นฟูชุมชน 3) ขาดความสามารถในการนำทรัพยากรในชุมชนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ 4) ขาดความรักและสามัคคีกันในชุมชน 5) ขาดการรวมกลุ่ม การมีส่วนร่วมและการแสดงความคิดเห็น 6) ขาดการสืบทอดความรู้ภูมิปัญญาในชุมชน 7) ไม่มีกลุ่มอาชีพที่ส่งเสริมความเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน 8) ไม่มีความกระตือรือร้นที่อยากให้เกิดการพัฒนาและฟื้นฟูชุมชน 9) การไม่ตระหนักถึงปัญหาและความสำคัญของที่อยู่อาศัยและชุมชน 10) ขาดแนวคิดการการพึ่งพาตนเองไม่เชื่อมั่นในศักยภาพของตน 11) ขาดความสามารถของผู้นำและการแสวงหาความช่วยเหลือทั้งจากภายในและภายนอกชุมชน ถึงแม้จะมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ 1) การมีที่อยู่อาศัยที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์สภาพแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ 2) ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามที่ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมา 4) มีความรักและความผูกพันต่อถิ่นฐานที่ตนอาศัยอยู่ 5) การเห็นคุณค่าของที่อยู่อาศัยและการอยู่อาศัยทางวัฒนธรรม 6) มีความสัมพันธ์ของคนในชุมชนทั้งในกลุ่มเครือญาติและละแวกบ้าน ก็ตาม แนวทางการฟื้นฟูชุมชนต้องสร้างเสริมศักยภาพของชุมชนโดย 1) ผู้นำชุมชนต้องใช้ปัญหาที่อยู่อาศัยที่พบจากการศึกษาร่วมกัน เป็นเครื่องมือ กระตุ้นให้ชุมชนตระหนักถึงปัญหาและรวมตัวกันในการแก้ไขปัญหา 2) ส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มต่างๆและมีพื้นที่พบปะสร้างความสัมพันธ์กันระหว่างกลุ่ม มีเวทีสำหรับพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในกลุ่มย่อย 3) จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้และภูมิปัญญาในชุมชนเพื่อพัฒนาศักยภาพของคนในชุมชน 4) นำทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาและฟื้นฟูชุมชนให้มากขึ้น โดยชาวชุมชนเป็นหลัก 5) หน่วยงานท้องถิ่นและผู้ที่เกี่ยวข้อง ควรให้การสนับสนุนกระบวนการพัฒนาศักยภาพของผู้อยู่อาศัยในชุมชน เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน สามารถที่จะพัฒนาและฟื้นฟูชุมชนในภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต