Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาถึงกรอบความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดนอาเซียน ศึกษากรณีเฉพาะการขนส่งทางบกในกลุ่มประเทศอินโดจีน โดยศึกษาเฉพาะมาตรการศุลกากรผ่านแดน และวิเคราะห์เปรียบเทียบกับมาตรการศุลกากรของสหภาพยุโรปและภูมิภาคแอฟริกาใต้รวมทั้งศึกษาถึงกฎหมายศุลกากรไทยที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าผ่านแดนดังกล่าว ผลการศึกษาพบว่า จากการที่ประเทศสมาชิกอาเซียนได้ตกลงจัดทำกรอบความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดนอาเซียน และกรอบความตกลงดังกล่าวมีผลใช้บังคับแล้วแต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในด้านการขนส่งสินค้า ณ จุดผ่านแดนได้ เนื่องจากขาดมาตรการบังคับประเทศภาคีให้มีการปฏิบัติตามพันธกรณีตามกรอบความตกลงดังกล่าว ในขณะที่สหภาพยุโรปและภูมิภาคแอฟริกาใต้มีมาตรการบังคับที่เข้มแข็ง นอกจากนี้แล้วประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับมาตรการศุลกากรสำหรับการขนส่งสินค้าผ่านแดนเป็นการเฉพาะ ทำให้ต้องใช้พระราชบัญญัติศุลกากร พระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร และประมวลระเบียบปฏิบัติศุลกากรบังคับกับการขนส่ง สินค้าผ่านแดนดังกล่าว อันเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการด้านพิธีศุลกากรและซ้ำซ้อนกับพิธีศุลกากรผ่านแดนของอีกประเทศหนึ่ง ผู้เขียนได้เสนอแนะว่าประเทศไทยควรที่จะริเริ่มนำหลักการของกรอบความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดนอาเซียนว่าด้วยเรื่องมาตรการศุลกากรผ่านแดน มาเป็นแนวทางในการออกกฎหมายเฉพาะสำหรับประเทศไทย เพื่อใช้บังคับกับการขนส่งสินค้าผ่านแดน และเห็นควรให้แก้ไขปรับปรุงกฎหมายไทยที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าผ่านแดน รวมถึงให้มีการมุ่งเน้นบทบาทขององค์กรที่กำกับ ดูแล มุ่งสนับสนุนมาตรการเกี่ยวกับการประเมินและติดตามผล และให้ความสำคัญกับมาตรการการระงับข้อพิพาทของอาเซียนอย่างจริงจัง ทั้งในขณะเดียวกันก็เห็นควรให้มีการประสานความร่วมมือในด้านพิธีศุลกากรผ่านแดนโดยมุ่งสนับสนุนให้เกิดการรวมกลุ่มในภูมิภาคอันยังผลให้มีการบังคับใช้กรอบความตกลงดังกล่าวในที่สุด