Abstract:
อนุสัญญาว่าด้วยความผิดและการกระทำอื่น ๆ บางประการที่กระทำบนอากาศยาน ค.ศ. 1963 หรืออนุสัญญากรุงโตเกียว ค.ศ. 1963 ได้กำหนดให้ผู้ควบคุมอากาศยานเป็นบุคคลผู้มีอำนาจในการคุ้มครองความปลอดภัยของอากาศยาน หรือของบุคคล หรือทรัพย์สินบนอากาศยาน รวมถึงการรักษาระเบียบและวินัยอันดีบนอากาศยาน เนื่องจากในขณะที่อากาศยานกำลังบินอยู่นั้น รัฐมีข้อจำกัดในการใช้อำนาจรัฐเพื่อคุ้มครองและป้องกันการกระทำความผิดที่อาจเกิดขึ้นบนอากาศยาน ประกอบกับทำให้เกิดความยากลำบากแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการที่จะเข้าไปดำเนินการกับผู้กระทำความผิดได้อย่างทันท่วงที อนุสัญญากรุงโตเกียว ค.ศ. 1963 นี้ ได้กำหนดให้อำนาจแก่ผู้ควบคุมอากาศยานในการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดและผู้ที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมบนอากาศยานไว้ 6 ประการ คือ อำนาจในการดำเนินมาตรการอันสมควร, อำนาจในการสั่งให้ลูกเรือให้การช่วยเหลือ, อำนาจในการขอร้องให้ผู้โดยสารให้การช่วยเหลือ, อำนาจในการมอบอำนาจแก่ลูกเรือหรือผู้โดยสาร, อำนาจในการให้ผู้กระทำความผิดลงจาก อากาศยาน และอำนาจส่งตัวผู้กระทำความผิดให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของรัฐ จากการศึกษาพบว่าบทบัญญัติในอนุสัญญากรุงโตเกียว ค.ศ. 1963 ขาดความชัดเจน ทำให้ผู้ควบคุมอากาศยานนำบทบัญญัติเหล่านี้ไปปรับใช้ในทางปฏิบัติได้อย่างยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการขาดคำนิยามของลักษณะการกระทำความผิดและการฝ่าฝืนระเบียบวินัยอันดีบนอากาศยานหรือที่เรียกว่าการประพฤติตนไม่เหมาะสมบนอากาศยาน ซึ่งนำไปสู่ความลังเลใจในการใช้อำนาจของผู้ควบคุมอากาศยาน อีกทั้งบทบัญญัติบางข้อยังกำหนดให้ผู้ควบคุมอากาศยานเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจในการใช้อำนาจ ซึ่งหากผู้ควบคุมอากาศยานใช้อำนาจโดยไม่เป็นไปตามที่อนุสัญญากำหนด ผู้ควบคุมอากาศยานจะต้องรับผิดในการใช้อำนาจของตน นอกจากนี้ในอนุสัญญากรุงโตเกียวยังขาดคำนิยามของคำว่าผู้ควบคุมอากาศยานหมายถึงบุคคลใด หรือควรจะมีคุณสมบัติเช่นใด ซึ่งปัญหาต่าง ๆ ข้างต้นนี้ ผู้เขียนวิทยานิพนธ์ได้สรุปผลการวิจัยและเสนอแนะแนวทางที่ควรจะเป็นในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางแก้ไขในส่วนของประเทศไทยด้วย