Abstract:
วัตถุประสงค์ เพื่อทดสอบการดูดซับและความคงที่ของสีของเรซินคอมโพสิตภายหลังการแช่ในเครื่องดื่มที่มีสี วิธีการ ทำชิ้นตัวอย่างรูปแผ่นกลมจากเรซินคอมโพสิต 5 ผลิตภัณฑ์ (เอสทีไลท์ซิกมาควิกซ์ วีนัส พรีมิส ฟิลเทคซี350เอกซ์ที และ ฟิลเทคพี90) ผลิตภัณฑ์ละ 10 ชิ้นสำหรับทดสอบการดูดซับเครื่องดื่ม และ 20 ชิ้น สำหรับทดสอบความคงที่ของสี นำชิ้นตัวอย่างกลุ่มแรกสำหรับทดสอบการดูดซับเครื่องดื่มมาคำนวณหาปริมาตรของแต่ละชิ้น แล้วนำไปแช่ในกาแฟและไวน์แดงที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 7 วัน หลังจากชั่งน้ำหนักครั้งแรกแล้วนำไปดูดความชื้นจนกระทั่งได้น้ำหนักที่คงที่ ชั่งน้ำหนักอีกครั้งแล้วนำมาคำนวณหาค่าการดูดซับเครื่องดื่ม ชิ้นตัวอย่างกลุ่มที่ 2 สำหรับทดสอบความคงที่ของสี แช่ในน้ำลายเทียมที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 24 ชั่วโมง จากนั้นวัดสีครั้งแรกด้วยเครื่องวัดและเทียบสี นำไปแช่ในกาแฟและไวน์แดงที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส ทำการวัดสีทุก 1 วันในช่วง 6 วันแรก หลังจากนั้นเปลี่ยนเป็นทุก 6 วันจนกระทั่งครบ 60 วัน นำค่าทั้งหมดมาเทียบกับการวัดครั้งแรก ได้เป็นค่าการเปลี่ยนแปลงสี (เดลต้าอี) วิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดด้วยสถิติความแปรปรวนแบบสองทาง ผลการทดลอง กลุ่มที่มีการดูดซับเครื่องดื่มได้มากที่สุดคือ ฟิลเทคซี350เอกซ์ที (เท่ากับ 26.66 และ 27.20ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร ในกาแฟและไวน์แดง ตามลำดับ) ส่วนกลุ่มที่ดูดซับน้อยที่สุดคือ ฟิลเทคพี90 (เท่ากับ 8.84 และ 8.00 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร ในกาแฟและไวน์แดง ตามลำดับ) สำหรับความคงที่ของสี ไวน์แดงทำให้เรซินคอมโพสิตเปลี่ยนสีได้มากกว่ากาแฟ โดยกลุ่มที่มีการเปลี่ยนสีมากที่สุด คือ ฟิลเทคซี350เอกซ์ทีในไวน์แดง (เดลต้าอี= 29.13) ในขณะที่กลุ่มที่เปลี่ยนสีน้อยที่สุด คือ ฟิลเทคพี90 ในกาแฟ (เดลต้าอี = 1.45) สรุป การดูดซับเครื่องดื่มที่มีสีและความคงที่ของสีของเรซินคอมโพสิตมีความแตกต่างกันในแต่ละผลิตภัณฑ์ซึ่งมีองค์ประกอบที่แตกต่างกัน การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม ร่วมกับการให้คำแนะนำผู้ป่วยหลังการรักษาเกี่ยวกับการเลือกรับประทานอาหาร อาจช่วยลดการเปลี่ยนสีของวัสดุบูรณะได้