Abstract:
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความเครียด การสนับสนุนทางสังคม ความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันและการสนับสนุนทางสังคมกับความเครียด ตลอดจนปัจจัยที่เกี่ยวข้องในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ณ โรงพยาบาลหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างโดยสุ่มจากผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 380 คน โดยเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบประเมินความเครียดของสวนปรุง แบบสอบถามการสนับสนุนทางสังคม และแบบประเมินความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน ดัชนีจุฬา เอ ดี แอล ทำการวิเคราะห์ระดับความเครียด การสนับสนุนทางสังคม และความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน โดยใช้สถิติ Descriptive statistic เช่น ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติ Pearson product - moment correlation coefficient ในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันและการสนับสนุนทางสังคมกับความเครียด การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับระดับความเครียด ใช้สถิติ chi-square, t-test, F-test และใช้ multiple linear regression analysis ในการหาปัจจัยทำนายความเครียด ผลการศึกษาพบว่าระดับความเครียดของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง มีอยู่ในระดับปานกลาง (คะแนนเฉลี่ยความเครียดเท่ากับ 34.95 ± 8.71 คะแนน) การสนับสนุนทางสังคมโดยรวม อยู่ในระดับน้อย (2.41±0.57) และคะแนนความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน อยู่ในระดับสูง (8.05±1.62) การสนับสนุนทางสังคมโดยรวมกับคะแนนความเครียดมีความสัมพันธ์เชิงลบ ในระดับต่ำ (r= -0.201) ส่วนความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน ไม่พบว่ามีความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงกับคะแนนความเครียด เนื่องจากกลุ่มตัวอย่างที่ทำการศึกษา ส่วนใหญ่มีคะแนนความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันสูง ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับระดับความเครียด ได้แก่ อายุ การศึกษา อาชีพ รายได้ต่อเดือน ความเพียงพอของรายได้ ระยะเวลาการเป็นโรคความดันโลหิตสูง และการมีโรคประจำตัวอย่างอื่นร่วมด้วย ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคไขมันในเส้นเลือดสูง ส่วนปัจจัยทำนายระดับความเครียด ได้แก่ อายุ การสนับสนุนทางสังคม และความเพียงพอของรายได้ มีความสัมพันธ์ทางลบกับคะแนนความเครียด